วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

“ หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี ” อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม

ภาพและเรื่องโดย..แฉ่ง บางกระเบา

หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี
เมืองสมุทรสงคราม มีพระเกจิอาจารย์ที่เข้มขลังโด่งดังมาแต่อดีตมากมายหลายรูป เช่น หลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย หลวงพ่อร้าย วัดเขายี่สาร หลวงพ่อหรุ่น วัดช้างเผือก หลวงพ่อตาด วัดบางวันทอง ต่อมาที่กระเดื่องเลื่องลือนามก็คือ หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี เพราะเป็นผู้มีฌานหยั่งรู้ “ ตัวเลขแห่งอนาคต ” ได้แม่นยำดุจตาเห็นจึงขอนำเรื่องราวที่พิสูจน์มาแล้ว ช่างน่าอัศจรรย์ใจให้ท่านผู้อ่านสัมผัส เพื่อจะได้รู้เกจิผู้เข้มขลังนั้นมีจริงในแผ่นดินไทย

เมื่อปี พ.ศ.2508 ที่ วัดจุฬามณี อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม มีงานประจำปี ซึ่งปีนั้นคึกคักกว่าปกติ เพราะมีวงดนตรีชื่อดังมาแสดงในงาน คือ วงดนตรีลูกทุ่ง สุรพล สมบัติเจริญ ผู้คนจึงมาวัดมากกว่าปีก่อนๆ และหลังจากดนตรีแสดงจบ

วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

หลวงพ่ออ่ำ อินฺทปญฺโญ ( พระพุทธวิหารโสภณ ) วัดวงษ์ฆ้อง พระนครศรีอยุธยา พระเกจิผู้เก่งกล้าทั้งเรื่องไสยศาสตร์และแพทยศาสตร์

ภาพและเรื่องโดย..เมธี ไทยนิกร

“หลวงพ่ออ่ำ” ที่มีพัดยศ ถ่ายขณะเป็น
พระราชาคณะที่ “พระพุทธวิหารโสภณ”
เจ้าอาวาสวัดหน้าพระเมรุ (พระอารามหลวง)
คงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่า “ พระนครศรีอยุธยา ” เป็นจังหวัดหนึ่งซึ่งอุดมไปด้วยพระสงฆ์เรืองวิชามาแต่โบราณกาล เท่าที่พอจะนึกออกบอกได้ในตอนนี้ก็มี อาทิ “ สมเด็จพระวันรัตน์ ” วัดป่าแก้ว ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของ “ พระนเรศวรฯ ” อย่างมาก หลังจากยุคนั้นก็มี “ พระอาจารย์พรหม ” ( หรือ “ พระพรหมมุนี ” ) วัดปากน้ำประสบ ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของ “ พระนารายณ์ฯ ” ( และเชื้อพระวงศ์ ) ส่วนอีกองค์ที่ร่วมสมัยได้แก่ “ พระพิมลธรรม ” วัดระฆัง ซึ่งเก่งในทาง “ ยามสามตา ” อย่างน่าอัศจรรย์ โดยเฉพาะในคราวที่ “ พระยาสีหราชเดโช ” ข้าศึกจับแต่สามารถแก้รอดมาได้ ท่านทำนายเหมือนอยู่ในเหตุการณ์ด้วยกระนั้น

วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

พระพุทธรูปสมัยสุโขทัย ที่อัญเชิญมาเป็นพระประธานในพระวิหาร พระอารามหลวงในกรุงเทพมหานคร

ภาพและเรื่องโดย อภิวัฒน์ โควินทรานนท์


“ สมัยสุโขทัย เป็นยุคที่พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองที่สุด ดังนั้นจึงเป็นยุคทองของพุทธศิลป์ พระมหากษัตริย์แห่งกรุง สุโขทัย ซึ่งเรียกกันทั่วไปว่า พระร่วง ตลอดจนชาว สุโขทัย มีศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างเต็มเปี่ยม ได้สร้างสรรค์ศาสนวัตถุ ศาสนสถานอย่างมากมาย ทั้งวิหารเจดีย์คือ วัดอันเป็นศาสนสถาน และ พระพุทธรูป อันเป็นศาสนาวัตถุ

อาณาจักร สุโขทัย มีวัดที่ใหญ่โตและสวยงามหลายสิบวัด วัดที่สำคัญเช่น วัดมหาธาตุ วัดตระพังเงิน วัดตระพังทอง วัดศรีสวาย วัดสระศรี วัดพระพายหลวง วัดศรีชุม วัดสรศักดิ์ วัดเชตุพน วัดช้างล้อม วัดตระพังทองหลาง วัดเขาพระบาทน้อย วัดเขาอินทร์ ฯลฯ ส่วน พระพุทธรูป นั้น ในสมัย สุโขทัย ได้สร้าง พระพุทธรูป จำนวนมากมายอย่างน่าอัศจรรย์ ตั้งแต่ พระพุทธรูป ขนาดพระบูชา คือขนาดหน้าตักไม่กี่นิ้ว จนถึง พระพุทธรูป พระประธานในโบสถ์วิหาร ที่มีขนาดตั้งแต่เท่าคนจริง จนถึงขนาดใหญ่กว่าคนจริง 2 เท่า 3 เท่า 4 เท่า จนถึง 8 เท่า! คือขนาดหน้าตักกว่า 3 วา หรือ 6 เมตร มีทั้งพระอิฐ พระปูน พระหล่อสัมฤทธิ์ พระนาก จนถึงพระทองคำ ( ยกเว้นพระหินและพระไม้ ที่ไม่พบในศิลปะ สุโขทัย )

วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

หลวงพ่อชม วัดพุทไธศวรรย์ ผู้สร้างตำนาน “ อีโต้ลอยน้ำ ” องค์ที่สอง

ภาพและเรื่องโดย..ศักดิ์ อโยธยา


ภาพหลวงพ่อชม ซึ่งเข้าใจว่าน่าจะถ่ายในช่วง
ที่ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะหมวดรองแขวงกรุงเก่า
พระเกจิเมืองกรุงเก่าอีกองค์หนึ่งซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ผู้นิยมสะสมวัตถุมงคลส่วนใหญ่ ได้แก่ หลวงพ่อชม พรฺหมฺโชติ หรือ พระครูอุเทศธรรมวินัย วัดพุทไธศวรรย์ ต.สำเภาล่ม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา และหากจะว่าไปเหตุปัจจัยสำคัญมาจากเหรียญของท่านซึ่งได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางทั้งในอยุธยาและต่างจังหวัด หรือพูดให้ชัดก็คือถือเป็นเหรียญดังระดับประเทศด้วยซ้ำ

สิ่งที่ทำให้เหรียญดังกล่าวเป็นที่ต้องการของใครต่อใคร ไม่ใช่เพราะเป็นรุ่นแรก ( และรุ่นเดียว ) หรือสร้างมานาน แต่ความสำคัญของเหรียญนี้อยู่ที่ความศักดิ์สิทธิ์หรืออภินิหารมากกว่า เพราะแน่นอนว่าผู้สร้าง (และปลุกเสก) ซึ่งก็คือหลวงพ่อชมนั้นเก่งกล้าถึงขั้นเป็นผู้สร้างตำนาน “ อีโต้ลอยน้ำ ” องค์ที่สอง ( รองจาก “ ขรัว ” ที่สร้างพระบรรจุไว้ในเจดีย์วัดเลียบ ) ทีเดียว

วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

พระครูภาวนาภิรัต ( หลวงปู่ทิม อิสริโก ) วัดละหารไร่ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง

ภาพและเรื่องโดย..เพียรวิทย์ จารุสถิติ, สิทธานต์ อุปริสัจกุล และคณะศิษย์


หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง
ก่อนที่จะเริ่มประวัติและเกียรติคุณของ หลวงปู่ทิม อิสริโก แห่งวัดละหารไร่ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง นั้น ผู้เขียนใคร่ขอนำข้อความที่กล่าวถึง หลวงปู่ทิม อิสริโก โดยพระเถระผู้ใหญ่ของ จังหวัดระยอง ซึ่งก็คือท่านเจ้าคุณ พระราชวิมลมุนี อดีตเจ้าคณะ จังหวัดระยอง ที่ได้กล่าวถึง หลวงปู่ทิม ไว้ในหนังสืองานพระราชทานเพลิงศพ หลวงปู่ทิม เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๖ มีนาคม พ.ศ.๒๕๒๖ ไว้ว่า

พระครูภาวนาภิรัต หรือ หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง เป็นพระเถระผู้ใหญ่ มีอายุพรรษาอยู่ในเกณฑ์สูง ก่อนจะถึงมรณภาพแทบจะกล่าวได้ว่า เป็นพระเถระที่มีอายุพรรษามากเป็นอันดับหนึ่งในเขต จังหวัดระยอง เป็นผู้ที่มีศีลาจารวัตร น่าเคารพเลื่อมใสเคร่งครัดในพระธรรมวินัย เป็นพระมีระเบียบแบบแผน จิตใจสะอาดสมกับภาวะของพระ พูดน้อย และเป็นพระเถระขมังเวทย์ ก่อนถึงมรณภาพประมาณ ๒๐ ปี มีผู้นิยมเลื่อมใสในวัตถุมงคลของท่านมาก มีชื่อเสียงกระฉ่อนไปไกลในเรื่องวัตถุมงคล ถ้ามีงานพุทธาภิเษกในวัดใด ทั้งในจังหวัดหรือต่างจังหวัด โดยมากจะได้รับอาราธนาให้เข้าร่วมในพิธีเกือบทุกแห่ง

วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

หลวงปู่วิเวียร วัดดวงแข พระวิมลธรรมภาณ ( ฐิตปุญญเถร วิเวียร ) วัดดวงแข กรุงเทพมหานคร

ภาพและเรื่องโดย..นิพนธ์ คันทรง

พระวิมลธรรมภาณ
(ฐิตปุญฺญเถร หลวงปู่วิเวียร บุญมาก)
วัดดวงแข กทม.
ท่านเจ้าคุณพระวิมลธรรมภาณ มีนามเดิมว่า “ สังเวียน บุญมาก ” กำเนิด ณ บ้านหมู่ที่ 8 ตำบลบ้านแก่ง อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2464 ตรงกับวันพุธ ขึ้น 10 ค่ำ เดือน 12 ปีระกา โยมบิดาชื่อ กริ่ม บุญมาก โยมมารดาชื่อ พริ้ง บุญมาก มีพี่น้องรวมด้วยกัน 6 คน คือ

1. นางขาว เหมพิจิตร
2. นางสาวละออง บุญมาก
3. นางน้ำค้าง บุญมาก
4. นางน้ำผึ้ง บุญมาก
5. พระพรหมมุนี ( ปุญญารามเถร หลวงปู่วิชมัย บุญมาก ) วัดบวรนิเวศวิหาร
6. พระวิมลธรรมภาณ ( ฐิตปุญญเถร หลวงปู่วิเวียร บุญมาก ) วัดดวงแข

วันพุธที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

หลวงพ่อเต้า วัดเกาะวังไทร “ ศิษย์เอกองค์เดียวของหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง ”

ภาพและเรื่องโดย..อ.ยุทธ โตอดิเทพย์

หลวงพ่อเต้า วัดเกาะวังไทร
ในระยะก่อนปี 2535 นครปฐมเมืองเกจิอาจารย์ชั้นยอดแถวหน้าของวงการพระเครื่อง มีเกจิอาจารย์อาคมขลังแฝงเร้นอยู่องค์หนึ่ง รู้ดีในวงการคนนครปฐมว่าวัตถุมงคลของท่านแจ่มแจ๋ว “ เชื่อขนมกินได้ ” เจ้าของพระเครื่องที่ตำรวจยิงคนร้ายกระเด็นไม่ระคายผิว แขวนเพียงเหรียญของท่านเหรียญเดียวจริงๆ “ ผ้ายันต์แดง ” ของท่านชักขึ้นฟ้าทันใดฝนตั้งเค้าครึ้มอย่างไรก็ไม่ตก  ห้ามฝนได้ราวปาฏิหาริย์ คนนครปฐมรู้กันทั้งเมือง ตั้งโต๊ะจีนเป็นร้อยกลางฤดูฝนขอให้มี “ ผ้ายันต์แดง ” ของท่านเพียงผืนเดียว รับรองกินกันจนจบงานฝนก็ยังไม่ตก เกจิอาจารย์ท่านนี้นามว่า “ หลวงพ่อเต้า วัดเกาะวังไทร ” ศิษย์เอกคนเดียวของหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง อั้นมานานถึงวันนี้ ขอให้ท่าน “ ดัง ” กับเขาบ้างได้ไหม

วันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

หลวงปู่อ่ำ ( ท่านพระครูเทพสิทธิการ ) วัดหนองกะบอก จ.ระยอง กับการสร้างแพะมหาเสน่ห์

โดย ประเจียด คงศาสตรา 
                                                                                                         
หลวงพ่ออ่ำ (เรือเก่า)
อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองกะบอก
ชาตะพ.ศ. 2408 มรณภาพ พ.ศ. 2495
แพะสาลิกา ฝีมือลุงพลับ ตัวเมีย
(ไม่มีเครา)

คำบูชาบูรพาจารย์

การเขียนเรื่องราวแห่ง หลวงปู่อ่ำ วัดหนองกะบอก ต.หนองละลอก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ขออุทิศถวายองค์พระคเณศฯมหาเทวะผู้ประทานความสำเร็จ, ลวงปู่อ่ำ วัดหนองกะบอก, ท่านพลตรีประจน กิตติประวัติ ( ตรียัมปวาย ), ครูผล ประดิษศิริผล และ ปลัดเจริญ เพชรนครสอง ผู้แกะ แพะมหาเสน่ห์ พิมพ์มาตรฐานให้กับ หลวงปู่อ่ำ วัดหนองกะบอก จนเป็นที่ยอมรับของนักเล่นเครื่องราง ทั้งที่เป็นชาว ระยอง และต่างถิ่นตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แลครูบาอาจารย์ที่ประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้ทั้งปวง จนผู้เขียนมีความรู้ความสามารถในการเขียนหนังสือเกี่ยวกับพระเกจิอาจารย์มาจนทุกวันนี้.

วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

หลวงพ่อลำเจียก วัดศาลาตึก พระเกจิอาจารย์เมืองกำแพงแสน นครปฐม “ หนามแหลมไม่ต้องเสี้ยม มะนาวกลมเกลี้ยงไม่ต้องกลึง ”

ภาพและเรื่องโดย อ.ยุทธ โตอดิเทพย์


หลวงพ่อลำเจียก วัดศาลาตึก
ศาลาตึก เป็นซากโบราณสถาน ตั้งอยู่ในเขต ตำบลทุ่งลูกนก อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม บริเวณใกล้เคียงกับชุมชนตำบลสนามแย้ อำเภอท่ามะกา  จังหวัดกาญจนบุรี และชุมชนตำบลห้วยกระบอก อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี “ ศาลาตึก ” สันนิษฐานว่าเรียกตามประวัติทางโบราณคดีโดยมีหลักฐานที่เหลือร่องรอยไว้เป็นซากอิฐโบราณสร้างเป็นรูปตึกแถว มีประวัติความเป็นมาว่า ศาลาตึก เก่าหลังนี้สร้างในสมัยสมเด็จพระพุทธพันปี ( ตามคำบอกเล่าของชาวบ้าน ) สำหรับให้คนเดินทางมาพักแรมหลบภัยอันตรายจากสัตว์ร้ายต่างๆ ในยามค่ำคืน เช่น เสือ ช้าง งู ฯลฯ 

สมัยโบราณเส้นทาง ศาลาตึก จะเป็นทางผ่านสำหรับผู้คนที่ไปนมัสการพระแท่นดงรัง จังหวัดกาญจนบุรี ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าว่า ศาลาตึก สร้างเป็นตึกสองชั้น ชั้นล่างเป็นที่พักช้างพักม้า ชั้นบนสำหรับเป็นที่พักคนเดินทาง ปัจจุบันเหลือเพียงซากฐานตึก ซึ่งทางวัดได้อนุรักษ์ไว้นับเป็นโบราณสถานสำคัญในด้านประวัติศาสตร์ท้องถิ่น บริเวณดังกล่าวเป็นที่ตั้งของ วัดศาลาตึก ชุมชนบ้านห้วยกระบอก โรงเรียนประถมศึกษา โรงเรียนมัธยมศึกษา ได้เรียกชื่อสถานที่ต่างๆ ตามนามของโบราณสถานตั้งแต่เริ่มก่อตั้งจวบจนถึงทุกวันนี้

วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

ปกหน้า ลานโพธิ์ ฉบับที่ 1240 เหรียญหลวงพ่อพระอุปัชฌาย์เอีย รุ่นแรก พ.ศ.2502 วัดบ้านด่าน อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 ราคาปก 99 บาท

ปกหน้า ลานโพธิ์ ฉบับที่  1240 เหรียญหลวงพ่อพระอุปัชฌาย์เอีย รุ่นแรก พ.ศ.2502 วัดบ้านด่าน อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 ราคาปก 99 บาท แจกฟรี โปสเตอร์ พระครูสังวรกิตติคุณ (หลวงพ่อเอีย) วัดบ้านด่าน ต.เกาะลอย อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี “เกจิอาจารย์ผู้ทรงกิตติคุณลือชาปรากฏทางพุทธาคม” ชุดที่  1 แจกฟรีพร้อมหนังสือ เหรียญนั่งพาน รุ่นบารมีพันล้าน ๘๘ หลวงพ่อสุนทร วัดหนองสะเดา อ.หนองแค ราคาปก 99 บาท 

“ ลานโพธิ์ ” ฉบับนี้แจกฟรี เหรียญหลวงพ่อสุนทร วัดหนองสะเดา สระบุรี ให้ผู้อ่านพร้อมกับหนังสือทุกเล่ม ซื้อหนังสือที่ไหนรับได้ที่นั่น ที่ดูเหมือนจะพิเศษกว่าคนอื่นก็คือ “ ท่านสมาชิกลานโพธิ์ ” เหรียญแจกฟรีไปมอบให้ท่านถึงประตูบ้านไม่ต้องลำบากไปหาซื้อตามแผงหนังสือ ซึ่งถ้าไปช้าก็หมดก่อนที่จะไปถึง มีหลายท่านประสบปัญหาเช่นนี้ จึงสมัครเป็นสมาชิกเข้ามาเพื่อประกันความผิดหวัง ทุกครั้งที่มีการแจกท่านสมาชิกทุกท่านจึงสบายใจได้ว่า ต้องได้แน่นอน