“ หลวงพ่อฮวด วัดหัวถนนใต้ ” เกจิอาจารย์ขลังอีกองค์หนึ่งของเมือง นครสวรรค์ เป็นพระเถระผู้ทรงไว้ด้วยศีลาจารวัตรงดงาม เคร่งครัดในการปฏิบัติธรรม ฝึกฝนจิตจนมีพลังกล้าแข็ง เรียนรู้เจนจบทางด้านพุทธาคมอย่างเอกอุ เป็นศิษย์ร่วมอาจารย์เดียวกันกับ หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ ขนาดหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ นิมนต์ให้ไปร่วมงานด้วยบ่อยครั้ง นอกจากนั้นท่านเดินทางไปศึกษาพุทธาคมกับเกจิอาจารย์ที่เก่งกล้าในสมัยนั้นอีกมากมาย มงคลวัตถุของท่านจึงมีพุทธคุณ มีประสบการณ์ เป็นที่ศรัทธาของสานุศิษย์และชาวนครสวรรค์ทั่วไป
ประวัติของ หลวงพ่อฮวด กัณฑโว วัดหัวถนนใต้ อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ จากหนังสือรำลึกในงานบรรจุสังขารของหลวงพ่อในจตุรมุขพิมานฯ ซึ่ง คุณชลการ รัตนธีรเดช ได้บันทึกไว้มีดังนี้
![]() |
เหรียญรุ่น 1 สร้างปี 2507 |
สำหรับการเดินทางไปที่วัดนั้น เมื่อท่านเดินทางจากกรุงเทพฯไปถึงนครสวรรค์แล้ว ในบริเวณบริษัทขนส่งจะมีรถเพื่อเข้าไป อำเภอท่าตะโก ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมือง นครสวรรค์ ประมาณ 42 กม. ก่อนจะถึงอำเภอท่าตะโกประมาณ 3 กม. ทางด้านซ้ายมือจะมีทางสำหรับเข้า วัดหัวถนนใต้ วัดจะอยู่ลึกเข้าไป 200 ม. ก็จะถึง เมื่อท่านเดินทางไปถึงแล้วจะพบกับความร่มเย็นของป่าไม้ที่ล้อมรอบร่มรื่นสงบเงียบ เป็นสถานที่เหมาะที่จะหาความสงบทางใจ เหมาะแก่การพักผ่อนแบบธรรมชาติที่ปราศจากสิ่งวุ่นวายทั้งหลาย
ลำดับเจ้าอาวาส เป็นที่น่าเสียดายว่า ไม่มีใคร หรือหลักฐานอันใดบันทึกเอาไว้ว่า มีเจ้าอาวาสกี่องค์แล้วที่ได้ปกครอง วัดหัวถนนใต้ แต่จากการสอบถามหลวงพ่อองค์ปัจจุบัน ได้มีเจ้าอาวาสปกครองวัดนี้มีดังนี้
1. หลวงพ่อจ้อย
2. หลวงพ่อวงษ์
3. หลวงพ่อนัน
4. พระครูนิยุตธรรมประวิตร ( หลวงพ่อฮวด )
5. พระปลัดพริ้ง จักกะวโร ( เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน )
![]() |
รูปหล่อโบราณรุ่นแรก สร้างปี 2514 |
เมื่อท่านบูรณปฏิสังขรณ์วัดของท่านให้อยู่ในสภาพเรียบร้อยแล้ว ท่านก็ยังได้ช่วยเหลือวัดที่อยู่ในตำบลอื่นๆ อีก เช่นในปี พ.ศ.2509 เป็นประธานในการสร้างศาลาวัดหนองหลวง ต.ทำนบ อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ ในปีเดียวกันได้เป็นที่ปรึกษาสร้างศาลาวัดเขาค้างคาว ปี 2511-2512 เป็นประธานที่ปรึกษาวัดเขาวง อ.พยุหคีรี จ.นครสวรรค์ ปี 2513 เป็นที่ปรึกษาการสร้างสำนักสงฆ์บ้านเขาขาด อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ นอกจากท่านจะได้ทุ่มเททางด้านบูรณะวัดแล้ว ท่านยังได้มองเห็นความสำคัญของการศึกษาทั้งของภิกษุ-สามเณร และกุลบุตร-กุลธิดาในละแวกนั้น ได้เปิดโรงเรียนสอนพระปริยัติธรรม และพระธรรมวินัย ท่านได้จัดหาครูที่มีความรู้ความสามารถในพระธรรมวินัยบาลีสันสกฤตมาเป็นครูสอนพระภิกษุ-สามเณรที่วัด ปี พ.ศ.2502 สร้าง “ โรงเรียนประชาบาลนิยุกต์ประชาสรรค์ ” แบบครึ่งตึกครึ่งไม้ มีมุขทั้งสองด้าน มีห้องเรียน 6 ห้อง กว้าง 8.50 ม. ยาว 30 ม. และ ปี 2504 ท่านก็ได้สร้างโรงเรียนเพิ่มเติมขึ้นอีกหนึ่งหลัง กว้าง 8.50 ม. ยาว 33 ม. มีห้องเรียน 8 ห้อง ปี 2510 สร้างถังน้ำให้โรงเรียน 2 ถัง เพื่อให้เด็กได้มีน้ำดื่มน้ำใช้
![]() |
จตุรมุขทิพย์พิมาน แดนสถานสิงสถิต ที่บรรจุสังขารพระเดชพระคุณ หลวงพ่อฮวด กัณฑโว เพื่อให้ศิษยานุศิษย์ ได้กราบไหว้บูชาชั่วนิรันดร์ |
ในช่วงปัจฉิมวัยท่านได้จัดสร้างศาลาการเปรียญเป็นตึกขนาดใหญ่ที่สุดใน อำเภอท่าตะโก จัดสร้างกุฏิหลังใหม่อีก 2 หลัง เพื่อให้พระภิกษุ-สามเณรได้อาศัยจำพรรษา จัดสร้างหอระฆัง 2 หอขึ้นที่หน้าศาลาการเปรียญ แม้บั้นปลายชีวิตในขณะที่ท่านเข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาลหลายครั้ง ท่านก็ยังอุตส่าห์รับเป็นประธานในการก่อสร้างอาคารผู้ป่วยขนาด 30 เตียง ให้กับโรงพยาบาลประจำ อำเภอท่าตะโก และสามารถก่อสร้างจนสำเร็จเรียบร้อยด้วยทุนทรัพย์ค่าก่อสร้างประมาณ 30 ล้านบาท
ประวัติพระเดชพระคุณหลวงพ่อ พระครูนิยุตธรรมประวิตร ( หลวงพ่อฮวด กัณฑโว )
ชาติกำเนิดพระเดชพระคุณ หลวงพ่อฮวด เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน 2447 ปีมะโรง เดิมมีชื่อว่า “ ฮวด ” โยมบิดาชื่อ “ สา ” โยมมารดาชื่อ “ มี ” มีพี่น้อง 4 คน เป็นชาย 3 คน หญิง 1 คน หลวงพ่อเป็นคนโต นามสกุลเดิมว่า “ พงษ์ทอง ” เกิดที่หมู่ 4 ต.ดอนหวาย อ.ทับทัน จ.อุทัยธานี โยมบิดา-มารดามีอาชีพในทางกสิกรรม![]() |
รูปหล่อโบราณรุ่นแรก สร้างปี 2514 |
สมณศักดิ์ ปี พ.ศ.2471-2518 ร่วมเป็นกรรมการควบคุมการสอบนักธรรม พ.ศ.2472 ท่านสอบได้นักธรรมโทและได้รับแต่งตั้งเป็นฐานานุกรมที่ใบฎีกา พ.ศ.2474 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสและเจ้าคณะตำบลหัวถนน พ.ศ.2488 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์และเป็นฐานานุกรมที่ปลัด พ.ศ.2493 ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการตรวจสอบประโยคนักธรรม และเป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรี “ พระครูนิยุตธรรมประวิตร ” และเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2531 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระครูชั้นโท
ศีลาจารวัตร พระเดชพระคุณ หลวงพ่อฮวด ท่านเป็นพระที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัยเป็นอย่างยิ่ง เปี่ยมด้วยเมตตา มีความสมถะมักน้อยและถ่อมตน มีความขยันหมั่นเพียรในวัตรปฏิบัติและภารกิจทางพระศาสนาเป็นยิ่งนัก หลวงพ่อมักจะสั่งสอนคนให้อยู่ในศีลธรรมอันดี ไม่เบียดเบียนผู้อื่นให้เดือดร้อน และให้พอใจในสิ่งที่ตนมีและดำรงอยู่ ละเว้นบาปและความชั่วทุกชนิด
![]() |
เหรียญรุ่น 2 สร้างปี 2514 |
ปัจฉิมวัย ในระหว่างปี พ.ศ.2515-2535 พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้ทุ่มเทสติกำลังความสามารถให้กับการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ด้วยการ่วมพัฒนาบูรณะวัดวาอารามต่างๆ ที่ขอพึ่งบารมี โดยรับนิมนต์ไปทุกหนทุกแห่งทั่วประเทศที่มีพิธีพุทธาภิเษก เพื่อหาจตุปัจจัยในการก่อสร้างหรือซ่อมแซมศาสนสถานจนสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีหลายแห่ง ซึ่งในช่วงระยะเวลาดังกล่าวที่ชื่อเสียงบารมีของพระเดชพระคุณหลวงพ่อขจรขจายไปทั่วสารทิศ ก็มีหนังสือที่เกี่ยวกับพระเครื่องบ้าง บุคคลบางกลุ่มบางจำพวกบ้าง ได้มาขอประวัติตลอดจนการจัดสร้างวัตถุมงคลของวัดหัวถนนใต้ที่ผ่านมาไปลงโฆษณาประชาสัมพันธ์ พร้อมทั้งเสนอตัวขอจัดสร้างวัตถุมงคลถวาย โดยขอแบ่งผลประโยชน์ด้วย ก็ถูกปฏิเสธจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อฮวด บางรายถึงกับถูกไล่ลงจากกุฏิแทบไม่ทัน และหลวงพ่อเคยบอกกับศิษย์ที่ใกล้ชิดว่า
“ ไม่อยากดัง เพราะทองก็คือทอง ถึงเวลาคนจะเห็นคุณค่าเอง ไม่จำเป็นต้องไปป่าวประกาศโฆษณา ”
ดังนั้น เราจึงไม่ค่อยเห็นหรือรู้จักกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อฮวด รวมทั้งวัตถุมงคลของท่านตามหนังสือพระเครื่องทั่วไป นอกจากคนใกล้ชิดหรือผู้ที่เสาะแสวงหาพระอริยสงฆ์เพื่อการกราบไหว้บูชา เปรียบเสมือนหนึ่งการหาช้างเผือก ย่อมต้องไปหาในป่าเท่านั้น
![]() |
ตึกที่พักจำพรรษาในช่วงปัจฉิมวัยของหลวงปู่ฮวด |
จนถึงวันพุธที่ 26 สิงหาคม 2535 เวลา 08.47 น. พระเดชพระคุณหลวงพ่อฮวดจึงได้จากพวกเราไปอย่างสงบ สิริอายุ 89 ปี พรรษาที่ 68 ทิ้งไว้แต่ความดีงามให้ศิษยานุศิษย์ได้ยึดถือเป็นแนวทางในทางดำรงชีวิตต่อไป
อัศจรรย์ในบุญญาบารมี เมื่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อฮวดถึงแก่มรณกาลแล้ว คณะศิษยานุศิษย์จึงได้จัดพิธีสรงน้ำศพขึ้นที่วัดในเวลาประมาณ 16.30 น. และเมื่อเริ่มสรงน้ำศพก็ปรากฏว่า ฝนได้โปรยปรายลงมาทั้งๆ ที่มีแดดอยู่ ยังความอัศจรรย์ใจแก่ผู้พบเห็นเป็นยิ่งนัก คณะศิษยานุศิษย์ได้บรรจุร่างของท่านลงในโลงแก้วเพื่อให้สาธุชนได้กราบไหว้บูชา และจัดสวดพระอภิธรรมถวายท่านใน 100 วันแรก ซึ่งในระหว่างนี้ปรากฏว่าผู้คนที่แวะไปกราบไหว้ต่างก็มีโชคดี ลาภจากเลขอายุและพรรษาอย่างทั่วหน้า ยิ่งกว่านั้นสภาพสังขารของท่านดุจดั่งคนนอนหลับธรรมดาไม่มีการเน่าเปื่อย ทั้งๆ ที่มิได้ฉีดยา หรือปิดฝาโลงด้วยสุญญากาศแต่อย่างใด แถมเส้นเกศายังค่อยๆ งอกยาวขึ้นอีกด้วย คณะศิษยานุศิษย์จึงมีมติให้จัดสร้างพระวิหารถวายท่าน เพื่อเป็นที่ตั้งศพและที่สิงสถิตดวงวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ พร้อมเครื่องอัฐบริขารของท่านไว้ให้ศิษยานุศิษย์และสาธุชนทั่วไปสักการะกราบไหว้บูชาสืบไป
( ที่มา : ลานโพธิ์ ฉบับที่ 1204 หลวงพ่อฮวด วัดหัวถนนใต้ อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ ปักษ์แรก เดือนมกราคม พ.ศ. 2560 ราคาปก 60 บาท )
วันนี้! อ่านหนังสือ ลานโพธิ์ บน i-Pad หรือ Tablet computer ได้ทั่วโลกแล้ว ตามลิงค์นี้