![]() |
หลวงพ่อโต พระประธาน ในพระวิหารหลวง |
![]() |
พระรอด พิมพ์ใหญ่ พระประธาน เนื้อเขียวหินครก วัดพระสิงห์ จ.เชียงใหม่ |
![]() |
พระพุทธสิหิงค์ พระพุทธรูปเก่าแก่คู่บ้านคู่เมือง ซึ่งจะอัญเชิญออกแห่ให้ประชาชน ได้สรงน้ำและสักการบูชาในช่วงเทศกาลทุกปี |
![]() |
พระเจ้าทองทิพย์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ ผู้เฒ่าผู้แก่จะเรียกว่า “พระสิงห์น้อย” |
พญาผายู เป็นกษัตริย์แห่งราชวงศ์ มังราย เสวยราชสมบัติเมืองนคร เชียงใหม่ เป็นพระราชโอรสของ พญาคำฟู เมื่อพญาคำฟูได้รับราชสมบัติครองเมืองนคร เชียงใหม่ ได้น้อมบ้านเวนเมืองไว้แด่พญาผายูพระโอรส ส่วนพระองค์เสด็จไปประทับ ณ เมืองเชียงแสน เมื่อสิ้นพระชนม์แล้วพญาผายูได้เสวยราชสมบัติแทนพระองค์ เมื่อพระชนมายุได้ 29 พรรษา
![]() |
พระวิหารลายคำ เป็นสถาปัตยกรรมแบบล้านนา |
ประกอบกับพระองค์ท่านได้สร้างความสัมพันธไมตรีอันดีงามระหว่างเครือญาติ โดยได้ประกอบพิธีอภิเษกสมรสกับ พระนางเจ้าจิตนามหาเทวี พระราชธิดาของเจ้าผู้ครองเชียงของ ทำให้เกิดความสัมพันธ์ทางพระราชไมตรีที่ดีงามต่อกัน พญาผายูครองเมืองด้วยทศพิธราชธรรม มีพระราชหฤทัยฝักใฝ่ในบวรพระพุทธศาสนา ได้สละพระราชทรัพย์สร้าง วัดลีเชียงพระ (วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร) เพื่ออุทิศถวายเป็นส่วนพระราชกุศลแด่พญาคำฟู พระราชบิดา พร้อมทั้งได้สร้างสถูปที่บรรจุพระอัฐิของพญาคำฟูไว้ ณ วัดแห่งนี้ด้วย
![]() |
พระกริ่งนเรศวร เมืองงาย |
![]() |
พระรอด พิมพ์ใหญ่ ก้นจารหลวงพ่อเงิน เนื้อแดง วัดพระสิงห์ จ.เชียงใหม่ |
พญาเมกุฏิวิสุทธิวงศ์ เป็นกษัตริย์แห่งราชวงศ์มังราย เสวยราชสมบัติ ณ เมืองนคร ประมาณ พ.ศ.2094-2107 ทรงเป็นเจ้านายในราชวงศ์มังรายสืบเนื่องมาจาก เจ้าขุนเครือ พระราชโอรสของพญามังรายมหาราชเจ้า ซึ่งได้รับพระบรมราชโองการ จากพระบิดาให้ไปเป็นเจ้าผู้ครองเมืองนาย อันเป็นหัวเมืองไทยใหญ่ และมีการสืบทอดตำแหน่งเจ้าผู้ครองนครมาหลายพระองค์ จนกระทั่งมาถึงพญาเมกุฏิวิสุทธิวงศ์
![]() |
พระรอด พิมพ์กลาง เนื้อแดง วัดพระสิงห์ จ.เชียงใหม่ |
![]() |
พระเจ้าทันใจ เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นโบราณ ประดิษฐานอยู่ในพระวิหารทันใจ |
พญากาวิละ มีพระนามตามปรากฏในพระสุพรรณบัตรว่า “ พระบรมราชาธิบดี ศรีสุริยวงศ์ องค์อินทรสุรศักดิ์สมญา มหาขัติยาราช ชาติราชาไชสวรรค์ เจ้าขันฑเสมาพระนครเชียงใหม่ ราชธานีศรีสวัสดีฑียายุสมอุดม ” เป็นพระโอรสของเจ้าฟ้าหลวงชายแก้ว เจ้าเมืองนครลำปาง ประสูติแต่แม่เจ้าจันทามหาเทวี ได้เสด็จขึ้นครองเมืองเป็นเจ้าหลวงพระนคร เชียงใหม่ องค์ที่ 1
![]() |
หอพระไตรปิฎก เป็นที่เก็บคัมภีร์เก่าแก่ และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ |
เมื่อ สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ได้เสด็จขึ้นครองราชย์แล้ว พระองค์ได้พาเอาเจ้านายพี่น้องในราชตระกูลทิพจักราธิวงศ์ลงไปเข้าเฝ้า พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงโปรดฯเป็นอันมาก และได้พระราชทานยศให้เป็น “ พญามังราวชิรปราการ เจ้าเมือง เชียงใหม่ ” พระองค์ได้รวบรวมเอาผู้คนยกไปตั้งเมืองเวฬคาม เวียงป่าซาง สะสมไพร่พลทหารสร้างบ้านแปลงเมือง และสู้รบกับพม่าจนกระทั่งสามารถเข้าไปตั้งอยู่ในเมือง เชียงใหม่ ได้สำเร็จ
![]() |
พระรอด หน้าหนู พิมพ์ใหญ่ เนื้อเขียวหินครก วัดพระสิงห์ จ.เชียงใหม่ |
![]() |
พระรอด พิมพ์เล็ก โพธิ์ซ้อน เนื้อเหลือง วัดพระสิงห์ จ.เชียงใหม่ |
![]() |
พระรอด หน้าหนู พิมพ์เล็ก เนื้อเขียว วัดพระสิงห์ จ.เชียงใหม่ |
![]() |
พระพุทธไสยาสน์ (พระนอน) เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ ประดิษฐานอยู่ในวิหารพระนอน |
![]() |
เหรียญพระนเรศวร เมืองงาย |
พญาแสนเมืองมา โปรดพระราชทานอภัยโทษ และให้ไปครองเชียงรายตามเดิม ในการกลับจากกำแพงเพชรครั้งนั้น ท้าวมหาพรหมได้นำพระพุทธสิหิงค์ จากกำแพงเพชรมาถวายพระเจ้าแสนเมืองมาด้วย แต่ก่อนที่พระเจ้าแสนเมืองมาจะเอาพระพุทธสิหิงค์ไปประดิษฐานที่ใด ท้าวมหาพรหมก็ขอยืมเอาไปจำลองแบบที่เมืองเชียงรายก่อน เมื่อเสร็จถึงเชิญลงเรือล่องมาตามลำน้ำปิงและเชิญขึ้นที่ท่าวังสิงห์คำ ด้วยอิทธิปาฏิหาริย์ขององค์พระ ปรากฏว่าขณะเชิญขึ้นประดิษฐานบนบุษบกนั้น รัศมีขององค์พระได้เรืองไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือเป็นลำยาวประมาณ 2,000 วา จึงโปรดฯให้สร้างขึ้น ณ ที่นั้น เรียกว่า วัดฟ้าฮ่าม ( ฟ้าอร่าม )
![]() |
พระหลวงพ่อทวด วัดพระสิงห์ พิมพ์ใหญ่ |
![]() |
พระหลวงพ่อทวด วัดพระสิงห์ พิมพ์กลาง |
![]() |
พระหลวงพ่อทวด วัดพระสิงห์ พิมพ์เล็ก |
นอกจากนี้ในหนังสือ ตำนานครูบาศรีวิชัยแบบพิสดาร และ ตำนานวัดสวนดอก ปรากฏชื่อของ พระพุทธสิหิงค์ ดังมีใจความว่า “ เมื่อครั้งที่พระพุทธเจ้าเสด็จเทศนาธรรมแก่สัตว์โลก ณ เมืองน้อยใหญ่ จนกระทั่งมาถึงเมืองพิงค์ ( เชียงใหม่ ) ซึ่งขณะนั้นเป็นที่อยู่ของชาวลวะ มีชาวลวะคนหนึ่งนำผ้าทำเป็นช่อบูชาพระพุทธองค์ ซ้ำยังมีมารเฒ่าคนหนึ่งอายุได้ 120 ปี นำเอาผ้าสังฆาฏิแห่งตนชุบน้ำมันงาเจาะ ( ในที่นี้แปลว่า “ จุด ” ) ตามบูชาด้วยใจศรัทธา พระพุทธเจ้ากล่าวว่า พระตถาคตมาเถิงที่นี้ทมิฬลวะผู้นี้เอาผ้ามาแปลงช่อบูชาซี ท่านก็เอาผ้าสังฆาฏิชุบน้ำมันงามาเจาะตามบูชาพระตถาคต ภายหน้าฐานะ
ที่นี้จักเป็นมหานครอันใหญ่เป็นที่อยู่แห่งแก้วทั้ง 3 จักรุ่งเรืองงามมากนัก สารูปพระตถาคตชื่อ พระแก้วมรกต และ พระสิงห์ จักมาสถิตอยู่ในเมืองนี้ จักเป็นที่สักการบูชาแก่คนและเทวดาทั้งหลาย... ”
![]() |
พระอุโบสถสองสงฆ์ เป็นพระอุโบสถมีแห่งเดียว ในประเทศไทย ที่สร้างจำลองไว้เพื่อจำลองการทำ สังฆกรรมของพระภิกษุสงฆ์ และพระภิกษุณีสงฆ์ |
ส่วน ครูบาศรีวิชัย นั้น เมื่อท่านสถิตอยู่ที่ วัดพระสิงห์ ในระหว่างพุทธศักราช ๒๔๖๗ จนเถิงพุทธศักราช ๒๔๗๑ ท่านได้จัดซ่อมแซมปฏิสังขรณ์หอธรรมที่ วัดพระสิงห์ หลังหนึ่ง เป็นหอธรรมบัวราณมาหลายแผ่นดิน เป็นที่งดงามมากนัก แล้วได้สร้างรสธรรมเทศนาไว้ค้ำชูโชตกะพุทธศาสนา ดังจักแจงตามจำนวนมัดและผูก ซึ่งเป็นพุทธชาดกทั้งหลาย และสูตรธรรมทั้งหลาย ในระหว่างพุทธศักราช ๒๔๖๙ จนเถิงพุทธศักราช ๒๔๗๑ นั้น ท่านได้มอบหื้อพระชินาภิกขุ ตนเป็นลูกศิษย์เป็นผู้จัดการรวบรวม จ้างท่านเขียนและเข้ากัปปิดทอง เซิ่งเป็นธรรมเทศน์พุทธชาดก และสูตรธรรมทั้งมวลซึ่งมีในกัปในหีบ ตามตำบลวัดวาอารามแห่งใดๆ เก็บมารวบรวมสร้างขึ้นใหม่ เป็นจำนวนธรรมหลายมัดหลายผูกมากนัก
![]() |
พระวิหารหลวงวัดพระสิงห์ เชียงใหม่ |
1. เป็นสถานที่ประดิษฐาน พระพุทธสิหิงค์ ( พระสิงห์ ) พระพุทธรูปเก่าแก่คู่บ้านคู่เมือง ซึ่งจะอัญเชิญออกแห่ให้ประชาชนได้สรงน้ำและสักการบูชาในช่วงเทศกาลทุกปี
2. เป็นสถานที่ประดิษฐาน พระเจ้าทองทิพย์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ และมีความสำคัญอีกองค์หนึ่ง ผู้เฒ่าผู้แก่จะเรียกว่า “ พระสิงห์น้อย ”
3. พระพุทธไสยาสน์ ( พระนอน ) เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ ประดิษฐานอยู่ในวิหารพระนอน เป็นพระประจำวันเกิดวันอังคาร
![]() |
อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย |
5. หลวงพ่อโต พระพุทธรูปซึ่งเป็นพระประธานในพระวิหารหลวง
6. พระวิหารลายคำ เป็นโบราณสถานที่มีความสวยงามและมีคุณค่า เป็นสถาปัตยกรรมแบบล้านนา ได้รับการเลือกจากสมาคมสยามสถาปนิกแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ให้เป็นสถาปัตยกรรมดีเด่น
7. หอพระไตรปิฎก เป็นโบราณสถานที่สวยงาม เป็นที่เก็บคัมภีร์เก่าแก่ และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์
8. พระอุโบสถสองสงฆ์ เป็นพระอุโบสถมีแห่งเดียวในประเทศไทย ที่สร้างจำลองไว้เพื่อ จำลองการทำสังฆกรรมของพระภิกษุสงฆ์ และพระภิกษุณีสงฆ์ เป็นพระอุโบสถเก่ามีอายุหลายร้อยปี
9. เป็นที่ประดิษฐานอัฐิของ พญาคำฟู กษัตริย์ล้านนาองค์ที่ 4 แห่งราชวงศ์มังราย ราชบิดาของ พญาผายู ผู้สร้างวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร
10. มีพระธาตุหลวง ( พระมหาเจดีย์ ) เป็นพระธาตุหลวง ประจำปีมะโรง
โบราณสถานและโบราณวัตถุดังกล่าว มีคุณค่าควรแก่การเดินทางไปกราบไหว้ และศึกษาอย่างยิ่ง
( ที่มา : ลานโพธิ์ ฉบับที่ 1082 ของดีวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร จังหวัดเชียงใหม่ ตอน 1 ปักษ์หลัง เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 ราคาปก 99 บาท )
วันนี้! อ่านหนังสือ ลานโพธิ์ บน i-Pad หรือ Tablet computer ได้ทั่วโลกแล้ว ตามลิงค์นี้
สามารถหาอ่านหนังสือ ลานโพธิ์ ในรูปแบบ E-book ได้แล้วจร้า..