ภาพและเรื่องโดย พระมหาธีรนาถ อคฺคธีโร
พระสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์ หรือ ท่านพ่อลี ธมฺมธโร พระอริยเจ้าผู้ทรงคุณอันประเสริฐ ถึงพร้อมด้วยอำนาจแห่งบารมีและบุญที่สั่งสมไว้แต่ปางบรรพ์
ท่านมีชีวประวัติที่งดงามยิ่งนัก เป็นพระสุปฏิปันโน ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ที่มีภูมิจิตภูมิธรรมแก่กล้า มีศรัทธาพร้อมพรั่งเต็มเปี่ยมในการเผยแพร่สัจธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ท่านจึงเป็นผู้ที่ ท่านพระอาจารย์มั่นให้ความเมตตา โปรดปราน และให้การยกย่องเป็นกรณีพิเศษว่า
“ มีพลังจิตสูง เป็นผู้เด็ดเดี่ยว
อาจหาญ เฉียบขาด
ถึงพร้อมด้วยศีลด้วยธรรม ”
สมศักดิ์ศรีที่ได้รับความไว้วางใจ จาก พระญาณวิสิษฏ์สมิทธิวีราจารย์ ( ท่านพระอาจารย์สิงห์ ขนฺตฺยาคโม ) ให้เป็น “ อัศวินแห่งกองทัพธรรมกรรมฐานสายท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต ที่มีธรรมะเป็นอาวุธ ”
และ พระธรรมวิสุทธิมงคล ( หลวงตามหาบัวญาณสมฺปนฺโน ) ได้กล่าวถึงบุคลิกลักษณะ อุปนิสัย และพลังจิตของท่านพ่อลีด้วยความศรัทธาเลื่อมใสว่า
“ เรามองดูครูอาจารย์ลีทีแรก เราก็เลื่อมใสเลยนะ ”
ท่านเป็นผู้มีบุญวาสนาจริงๆ
น่าชมเชย น่าเคารพ
มีสง่าราศี สง่าผ่าเผย
องอาจกล้าหาญ เด็ดเดี่ยวจริงจัง เป็นนักเสียสละ
ท่านพระอาจารย์มั่นโปรดที่จะสนทนาและเมตตามาก
ไม่เคยตำหนิอะไร มีแต่ยกย่องชมเชย
ท่านเป็นผู้มีพลังจิตสูง จิตของท่านแรง
การทำน้ำมนต์ของท่าน เพียงแค่มองแล้ว “ อึ่ม ” คำเดียวเท่านั้น ก็เป็นสำเร็จประโยชน์ พลังจิตของท่านแรง แข็งกล้ามาก น้อยองค์ที่จะเป็นแบบท่านได้ ผิดกับครูบาอาจารย์บางองค์ที่มีพลังจิตนุ่มนวลต้องเพ่งนาน
และบทความหลักฐานที่ยืนยันจาก พระอาจารย์ฟัก สนฺติธมฺโม วัดเขาน้อยสามผาน จังหวัดจันทบุรี ว่าได้ฟัง หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน เล่าเรื่องที่ท่านพระอาจารย์มั่นสนทนากับท่านพ่อลีถึงพวกกายทิพย์ไว้ดังนี้...
“ สมัยหนึ่ง ท่านพ่อลี เดินทางไปคารวะเยี่ยมอาการอาพาธของท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต ที่วัดบ้านหนองผือ ขณะนั้นมีพระผู้ใหญ่หลายรูปที่เป็นรุ่นพี่ของ ท่านพ่อลี
หลวงตามหาบัว ตอนนั้นยังไม่รู้จักกันกับ ท่านพ่อลี รู้แต่เพียงว่า ท่านพ่อลี เป็นลูกศิษย์หลวงปู่มั่น และได้ไปอยู่จันทบุรี
ตามธรรมดาปฏิปทาของท่านพระอาจารย์มั่นในตอนหัวค่ำ ถ้าวันไหนท่านจะให้ลูกศิษย์เข้ารับฟังโอวาทธรรม ท่านจะบอกให้พระไปจุดตะเกียงไว้เป็นสัญลักษณ์
พอได้เวลาพระทั้งหลายก็พากันมารับฟังโอวาทกันหมด
เหลือเพียง ท่านพ่อลี องค์เดียวที่ไม่มา มีพระผู้ใหญ่ที่พรรษามากกว่าตำหนิว่า
“ ท่านลี! จากครูบาอาจารย์ไปเสียนาน แล้วไม่เคยมาเยี่ยมท่านอาจารย์ใหญ่ ( หลวงปู่มั่น ) อีก เมื่อมาก็มีลูกศิษย์ลูกหาตามมามากมาย ยั้วเยี้ยยังกับมดแดงไต่ตามต้นมะม่วง
แล้วนี่ยังหัวค่ำโพล้เพล้ ไม่ทราบว่านอนหรือนั่ง เอามุ้งกลดลงแล้ว น่าจะเข้ามาหาครูบาอาจารย์ซะบ้าง จะได้มารับรู้รับฟังอุบายธรรมอันแยบยล ”
หลังจากที่ท่านพระอาจารย์มั่น ได้ปฏิสันถารโอวาทธรรมให้แก่พระ-เณรในวัดจบลง เป็นเวลาประมาณ 4 ทุ่ม ทุกรุปต่างก็กลับไปที่พัก เพื่อเจริญสมณธรรมตามที่ท่านพระอาจารย์มั่นสั่งสอน
เมื่อสบโอกาสอันควร ท่านพ่อลี จึงเดินย่องออกจากที่พัก ฉายไฟฉายสีแดงมัวๆ ออกมา บังเอิญ หลวงตามหาบัว และ พระอาจารย์ถวิล เห็นเข้า จึงเกิดความสงสัยว่า ใครกันหนอที่อาจหาญชาญชัยบังอาจมาถ้ำเสือ ( กุฏิท่านพระอาจารย์มั่น ) ในตอนดึกๆ ท่านทั้งสองจึงย้อนกลับมาไม่ให้ใครเห็น โดยหลบอยู่ใต้ถุนกุฏิของท่านพระอาจารย์มั่น
พอ ท่านพ่อลี ขึ้นไปกราบท่านพระอาจารย์มั่นเท่านั้นแหละ ท่านพระอาจารย์มั่นพูดทักทายขึ้นทันทีว่า... “ ท่านลี!...ภาคเหนือภาวนาดี เพราะเทพเทวดา พวกกายทิพย์เขาอาศัยกันอยู่เยอะ ”
ท่านพ่อลี ตอบว่า “ ขอโอกาส! เดี๋ยวนี้ไม่ได้เป็นเหมือนดังแต่เก่าก่อน เทพเทวดามิได้มีมาก ตอนนี้สู้ทางภาคอีสานบางแห่งไม่ได้ มีกายทิพย์เยอะแยะไปหมด เดี๋ยวนี้เทพเจ้า เหล่ากายทิพย์ เขาย้ายตามท่านพระอาจารย์ใหญ่ ( มั่น ) มาอยู่ทางอีสานกันเยอะแล้ว ”
ท่านผู้มีวิจัยธรรม ได้ตีความหมายในเรื่องนี้ว่า ท่านพระอาจารย์มั่น มุ่งทดลองภูมิจิตภูมิธรรม ท่านพ่อลี ว่า จะสามารถรู้ในเรื่องนี้ได้จริงหรือไม่
อีกประการหนึ่ง อาจจะเป็นเพราะมีพระบางพวกตำหนิ ท่านพ่อลี อยู่ในขณะนั้น ท่านจึงหวังมุ่งสอนให้คนได้รู้ภูมิจิตภูมิธรรมของ ท่านพ่อลี ให้เป็นประจักษ์ในหมู่สงฆ์ เพราะท่านพระอาจารย์มั่น ท่านทราบอยู่เป็นแน่ว่ามีผู้มาแอบฟัง
เมื่อ หลวงตามหาบัว กับ พระอาจารย์ถวิล ได้ยินดังนั้นถึงกับอุทานว่า
“ อู้ฮู้! อาจารย์ลีองค์นี้ไม่ใช่ธรรมดา...กล้าพูดโต้แย้งเรื่องเทพยดากับท่านพระอาจารย์มั่นเชียวหรือ?
ท่านต้องมิใช่พระธรรมดาอย่างที่เราคิดไว้เสียแล้ว
แม้กุฏิที่พักท่านพ่อลี ท่านพระอาจารย์ใหญ่ ( มั่น ) ก็ให้จัดถวายเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งองค์ท่านมิเคยปฏิบัติต่อศิษย์องค์ใดมาก่อน ”
และอีกตอนหนึ่ง พระอาจารย์ฟัก เล่าถึงความเคารพที่หลวงตามหาบัวมีต่อองค์ ท่านพ่อลี มากมายว่า...
“ สาเหตุที่รู้ได้ว่าองค์พระหลวงตาเคารพ ท่านพ่อลี มาก เพราะคราวหนึ่งท่านหลวงตาเดินทางมากราบเยี่ยมอาการอาพาธของ ท่านพ่อลี ที่วัดอโศฯ ผมเป็นผู้ติดตามท่านมา หลวงตาท่านดุ... ดุผมมาก ( ดุพระอาจารย์ฟัก ) ผมคิดว่าท่านตั้งใจสอนผมมากกว่า
คือ พระอาจารย์บุญกู้ เป็นพระเจ้าถิ่น จัดกุฏิรับรององค์หลวงตาที่กุฏิ ท่านพ่อลี ( ในสมัยนั้นที่พักไม่มีมากเหมือนตอนนี้ ) หลวงตาเห็นดังนั้นท่านก็พูดเสียงแข็งว่า
“ พรุ่งนี้ต้องย้ายไปพักที่อื่นแล้วนะ รู้หรือไม่ว่า ผมเคารพ ครูอาจารย์ลี เหมือนพระอานนท์เคารพพระพุทธเจ้า แต่ในคืนนี้ผมจะนอน 1 คืน เพราะมากลางคืน พรุ่งนี้จะย้ายไปกุฏิขุนธุลีนรนารถ ”
และแล้วองค์หลวงตาก็กล่าวว่า...
“ ที่นอนพระพุทธเจ้า พระอานนท์ยังไม่เอื้อมแขนข้าม
ครูอาจารย์ลีกับผมก็เหมือนกัน
ผมถนัดเรียกท่านว่า ‘ ครูอาจารย์ลี ’
ผมเคารพเหมือนกับหลวงปู่มั่น ”
ขอยกข้อความอีกตอนหนึ่งของ สมเด็จพระสังฆราช ( จวน อุฏฺฐายี ) ได้กล่าวถึงการที่ไม่อยากให้เผาศพท่านพ่อลี เพราะท่านพ่อลีเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์แท้จริงว่า
“ อาจารย์ลี พระอย่างนี้ดีจริง ดีแท้ หายาก ถ้าจะเผานี่ปล่อยให้มันแย่ง 5 นาทีก็เกลี้ยงแล้ว ( แย่งอัฐิธาตุ )
ผม ( สมเด็จฯ ) อยู่วัดโน้น ( วัดมกุฏฯ ) ผมรู้ มีคนไปเล่าให้ผมฟัง เขาแต่งงานกันมา 3 ปี อยู่ราชบุรีไม่มีลูก มาขอลูกกับอาจารย์ลี มันก็ได้ลูกขึ้นมา
อีกคนหนึ่งเงินเดือนก็ไม่เลื่อนสักที เขาก็ไปขออาจารย์ลีให้เงินเดือนขึ้นหน่อย อีกไม่นานเงินเดือนขึ้น หลายคนด้วยที่เป็นแบบนี้
เป็นผู้ต้องหาคดีอุกฉกรรจ์ติดคุกกำลังจะโดนประหารชีวิต ท่านก็ช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบา ไม่ให้ถูกประหารได้
ยากจนที่สุด เขาจะตายภายในสามสี่วัน ท่านรู้ ก็บอกหวยให้ไปซื้อเอา เมื่อตายแล้วลูกหลานก็ได้เอาเงินนั้นมาทำศพ
อาจารย์ลีก่อนตายเพียง 3 วัน เขียนจดหมายไปบอกผม ท่านรู้วันตาย พระอย่างนี้ต้องเก็บไว้ให้คนได้กราบไหว้บูชา ”
ทั้งหมดนี้จึงเป็นที่มาของหนังสือและฉายานามของ ท่านพ่อลี ว่า “ พระอริยเจ้าผู้มีพลังจิตแก่กล้า ”
ท่านพ่อลี ธมฺมธโร ท่านเป็นพระผู้ล้ำเลิศด้วยคุณธรรม เป็นที่เคารพบูชาของบรรดาพุทธศาสนิกชนทุกผู้ทุกนาม อีกทั้งบรรดาสานุศิษย์ของท่านก็มีมากมาย ท่านเป็นพุทธทายาทที่องอาจในศีลบารมี สมาธิบารมี และปัญญาบารมี อีกทั้งยังเป็นพระนักปฏิบัติที่องอาจกล้าหาญในการเผยแพร่ธรรมะโดยแท้
ปฏิปทาอันละมุนละไมของท่านพ่อลี ทำให้บรรดาสาธุชนเลื่อมใสทั้งกาย วาจาและใจ ขันติธรรม และเมตตาธรรมของท่าน เป็นที่ซาบซึ้งแก่พุทธบริษัททั้งปวง สั่งสอนอบรมพุทธบริษัทให้เป็นบุคคลพลเมืองดีในชาติ มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง ที่ระลึก ที่บูชา แสงแห่งพุทธธรรมส่องสว่าง โดยพุทธสาวกผู้บริสุทธิ์ ให้ความอบอุ่น สงบสุขแก่ผู้คนทั้งปวง
ท่านพ่อลี ธมฺมธโร จึงเป็นพระเถระที่ได้รับการยอมรับว่า มีพลังอำนาจจิตสูง และสำคัญยิ่งรูปหนึ่งเช่นเดียวกับ ท่านอาจารย์ฝั้น อาจาโร พระอาจารย์ชอบ ฐานสโม ในสายกรรมฐานของท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต
ท่านพ่อลี ได้ประสบความสำเร็จทั้งในทางธรรมและทางโลก
ท่านได้บรรลุภูมิธรรมในขั้นสูงสุด
และองค์ท่านทราบว่า อดีตชาติได้เกี่ยวข้องกับจอมจักรพรรดิ์ผู้ยิ่งใหญ่ คือ “ พระเจ้าอโศกมหาราช ” โดยตรง
ชีวิตและปฏิปทาของท่านจึงมีทั้งสิ่งที่โลกรู้ตามได้และมิอาจรู้ตามได้ ท่านสร้างปริศนาชีวิตให้คนได้ค้นคิดเสมอ ทางไปและทางมาแห่งจิตอันใครๆ ตามรู้ได้ยาก ท่านจัดอยู่ในพระประเภท อจินไตย รูปหนึ่งในวงศ์กรรมฐานยุคปัจจุบัน
พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า “ สิ่งที่เป็นอจินไตย ” มีอยู่ 4 อย่าง คือ
1. วิสัยของพระพุทธเจ้า
2. ความคิดเรื่องการสร้างโลก
3. วิสัยของผู้มีฤทธิ์
4. กฎแห่งกรรม
คำว่า “ อจินไตย ” แปลว่า สิ่งที่ไม่ควรคิด แต่ควรพิจารณาโดยปัญญาขั้นสูง อันปัญญาสามัญมิอาจติดตามให้รู้ได้
หมายความว่า ไม่ควรคิดด้วยหลักของตรรกศาสตร์ เนื่องจากการคิดแบบนี้เป็นการคิดแบบอนุมาน ด้นเดา คาดคะเน เห็นจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ อันจะนำไปสู่ความผิดพลาดได้ง่าย เพราะใช้ความรู้จากประสาทสัมผัส ตาเห็น หูได้ยิน ฯลฯ เป็นพื้นฐานเท่านั้น
ในโลกนี้มีความจริงอยู่มากมาย ที่โลกไม่สามารถพิสูจน์ได้ด้วยวิทยาศาสตร์ เพราะพลังจิตบริสุทธิ์อยู่นอกเหนือประสาทสัมผัสสามัญธรรมดาจะรู้ได้
ปาฏิหาริย์และกฎแห่งกรรม เป็นความจริงอย่างหนึ่งที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ด้วยประสาทสัมผัสอย่างปกติ
แต่ต้องมีความรู้พิเศษอันกลั่นกรองมาจากบารมี ศีล ธรรม และสติวินัยอันยอดเยี่ยม จนกลายมาเป็นผู้บริสุทธิ์บรรลุอภิญญาณ รู้แจ้งในโลกทั้งสาม นั่นแหละจึงเป็นเครื่องพิสูจน์ได้แท้จริง
ท่านพ่อลี เป็นพระอริยสงฆ์รูปหนึ่งที่ท่านสามารถพิสูจน์เรื่องนี้ได้โดยถ่องแท้
ชีวิตของท่านจึงมีคุณค่าที่พวกเราต้องเทิดทูนและค้นคว้า...
เพราะหลักฐานการสอนและพื้นฐานอุปนิสัยวาสนาของท่าน จะแตกต่างจากครูบาอาจารย์องค์อื่นๆ
...เป็นมิติหนึ่งที่จะไขปริศนาเรื่องโลกนี้ โลกหน้า ชาตินี้ ชาติหน้า ตายแล้วไปไหน บรรลุธรรมได้อะไร พระอรหันต์เป็นเช่นไร?
นับว่าท่านประสบผลสำเร็จในทางธรรมสมบูรณ์แบบแล้ว
ส่วนในทางโลก ท่านยังได้รับการยกย่องอย่างสูงจากพระเจ้าแผ่นดิน
คือ...เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ท่านยังได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะสามัญที่ พระสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์ พร้อมๆ กับ พระญาณวิสิษฏ์สมิทธิวีราจารย์ ( พระอาจารย์สิงห์ ขนฺตฺยาคโม ) และ พระราชนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาจารย์ ( พระอาจารย์เทสก์ เทสฺรงฺสี ) ในปลายปี พ.ศ.2500
วันนี้! อ่านหนังสือ ลานโพธิ์ บน i-Pad หรือ Tablet computer ได้ทั่วโลกแล้ว ตามลิงค์นี้
สามารถหาอ่านหนังสือ ลานโพธิ์ ในรูปแบบ E-book ได้แล้วจร้า..
#ลานโพธิ์ #ท่านพ่อลี #วัดอโศการาม #จ.สมุทรปราการ
 |
| ท่านพ่อลี ธมฺมธโร |
ท่านมีชีวประวัติที่งดงามยิ่งนัก เป็นพระสุปฏิปันโน ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ที่มีภูมิจิตภูมิธรรมแก่กล้า มีศรัทธาพร้อมพรั่งเต็มเปี่ยมในการเผยแพร่สัจธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ท่านจึงเป็นผู้ที่ ท่านพระอาจารย์มั่นให้ความเมตตา โปรดปราน และให้การยกย่องเป็นกรณีพิเศษว่า
“ มีพลังจิตสูง เป็นผู้เด็ดเดี่ยว
อาจหาญ เฉียบขาด
ถึงพร้อมด้วยศีลด้วยธรรม ”
 |
| เหรียญรุ่นแรก ท่านพ่อลี วัดอโศการาม เนื้อทองแดง |
และ พระธรรมวิสุทธิมงคล ( หลวงตามหาบัวญาณสมฺปนฺโน ) ได้กล่าวถึงบุคลิกลักษณะ อุปนิสัย และพลังจิตของท่านพ่อลีด้วยความศรัทธาเลื่อมใสว่า
“ เรามองดูครูอาจารย์ลีทีแรก เราก็เลื่อมใสเลยนะ ”
ท่านเป็นผู้มีบุญวาสนาจริงๆ
น่าชมเชย น่าเคารพ
มีสง่าราศี สง่าผ่าเผย
องอาจกล้าหาญ เด็ดเดี่ยวจริงจัง เป็นนักเสียสละ
ท่านพระอาจารย์มั่นโปรดที่จะสนทนาและเมตตามาก
ไม่เคยตำหนิอะไร มีแต่ยกย่องชมเชย
ท่านเป็นผู้มีพลังจิตสูง จิตของท่านแรง
การทำน้ำมนต์ของท่าน เพียงแค่มองแล้ว “ อึ่ม ” คำเดียวเท่านั้น ก็เป็นสำเร็จประโยชน์ พลังจิตของท่านแรง แข็งกล้ามาก น้อยองค์ที่จะเป็นแบบท่านได้ ผิดกับครูบาอาจารย์บางองค์ที่มีพลังจิตนุ่มนวลต้องเพ่งนาน
 |
| ภาพหมู่หน้าศาลาทรงธรรม ซึ่งเป็นศาลาหลังแรกของวัดอโศการาม |
“ สมัยหนึ่ง ท่านพ่อลี เดินทางไปคารวะเยี่ยมอาการอาพาธของท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต ที่วัดบ้านหนองผือ ขณะนั้นมีพระผู้ใหญ่หลายรูปที่เป็นรุ่นพี่ของ ท่านพ่อลี
หลวงตามหาบัว ตอนนั้นยังไม่รู้จักกันกับ ท่านพ่อลี รู้แต่เพียงว่า ท่านพ่อลี เป็นลูกศิษย์หลวงปู่มั่น และได้ไปอยู่จันทบุรี
ตามธรรมดาปฏิปทาของท่านพระอาจารย์มั่นในตอนหัวค่ำ ถ้าวันไหนท่านจะให้ลูกศิษย์เข้ารับฟังโอวาทธรรม ท่านจะบอกให้พระไปจุดตะเกียงไว้เป็นสัญลักษณ์
พอได้เวลาพระทั้งหลายก็พากันมารับฟังโอวาทกันหมด
เหลือเพียง ท่านพ่อลี องค์เดียวที่ไม่มา มีพระผู้ใหญ่ที่พรรษามากกว่าตำหนิว่า
“ ท่านลี! จากครูบาอาจารย์ไปเสียนาน แล้วไม่เคยมาเยี่ยมท่านอาจารย์ใหญ่ ( หลวงปู่มั่น ) อีก เมื่อมาก็มีลูกศิษย์ลูกหาตามมามากมาย ยั้วเยี้ยยังกับมดแดงไต่ตามต้นมะม่วง
แล้วนี่ยังหัวค่ำโพล้เพล้ ไม่ทราบว่านอนหรือนั่ง เอามุ้งกลดลงแล้ว น่าจะเข้ามาหาครูบาอาจารย์ซะบ้าง จะได้มารับรู้รับฟังอุบายธรรมอันแยบยล ”
 |
| พระพิมพ์สมาธิห้าเหลี่ยม วัดอโศการาม สมุทรปราการ พ.ศ.2500 |
เมื่อสบโอกาสอันควร ท่านพ่อลี จึงเดินย่องออกจากที่พัก ฉายไฟฉายสีแดงมัวๆ ออกมา บังเอิญ หลวงตามหาบัว และ พระอาจารย์ถวิล เห็นเข้า จึงเกิดความสงสัยว่า ใครกันหนอที่อาจหาญชาญชัยบังอาจมาถ้ำเสือ ( กุฏิท่านพระอาจารย์มั่น ) ในตอนดึกๆ ท่านทั้งสองจึงย้อนกลับมาไม่ให้ใครเห็น โดยหลบอยู่ใต้ถุนกุฏิของท่านพระอาจารย์มั่น
 |
| เหรียญกลมธรรมจักร วัดอโศการาม สมุทรปราการ เนื้อกะไหล่ทอง พ.ศ.2500 |
ท่านพ่อลี ตอบว่า “ ขอโอกาส! เดี๋ยวนี้ไม่ได้เป็นเหมือนดังแต่เก่าก่อน เทพเทวดามิได้มีมาก ตอนนี้สู้ทางภาคอีสานบางแห่งไม่ได้ มีกายทิพย์เยอะแยะไปหมด เดี๋ยวนี้เทพเจ้า เหล่ากายทิพย์ เขาย้ายตามท่านพระอาจารย์ใหญ่ ( มั่น ) มาอยู่ทางอีสานกันเยอะแล้ว ”
ท่านผู้มีวิจัยธรรม ได้ตีความหมายในเรื่องนี้ว่า ท่านพระอาจารย์มั่น มุ่งทดลองภูมิจิตภูมิธรรม ท่านพ่อลี ว่า จะสามารถรู้ในเรื่องนี้ได้จริงหรือไม่
อีกประการหนึ่ง อาจจะเป็นเพราะมีพระบางพวกตำหนิ ท่านพ่อลี อยู่ในขณะนั้น ท่านจึงหวังมุ่งสอนให้คนได้รู้ภูมิจิตภูมิธรรมของ ท่านพ่อลี ให้เป็นประจักษ์ในหมู่สงฆ์ เพราะท่านพระอาจารย์มั่น ท่านทราบอยู่เป็นแน่ว่ามีผู้มาแอบฟัง
เมื่อ หลวงตามหาบัว กับ พระอาจารย์ถวิล ได้ยินดังนั้นถึงกับอุทานว่า
“ อู้ฮู้! อาจารย์ลีองค์นี้ไม่ใช่ธรรมดา...กล้าพูดโต้แย้งเรื่องเทพยดากับท่านพระอาจารย์มั่นเชียวหรือ?
ท่านต้องมิใช่พระธรรมดาอย่างที่เราคิดไว้เสียแล้ว
แม้กุฏิที่พักท่านพ่อลี ท่านพระอาจารย์ใหญ่ ( มั่น ) ก็ให้จัดถวายเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งองค์ท่านมิเคยปฏิบัติต่อศิษย์องค์ใดมาก่อน ”
 |
| พระธุตังคเจดีย์ เจดีย์แห่งพระอรหันต์ วัดอโศการาม สมุทรปราการ |
“ สาเหตุที่รู้ได้ว่าองค์พระหลวงตาเคารพ ท่านพ่อลี มาก เพราะคราวหนึ่งท่านหลวงตาเดินทางมากราบเยี่ยมอาการอาพาธของ ท่านพ่อลี ที่วัดอโศฯ ผมเป็นผู้ติดตามท่านมา หลวงตาท่านดุ... ดุผมมาก ( ดุพระอาจารย์ฟัก ) ผมคิดว่าท่านตั้งใจสอนผมมากกว่า
คือ พระอาจารย์บุญกู้ เป็นพระเจ้าถิ่น จัดกุฏิรับรององค์หลวงตาที่กุฏิ ท่านพ่อลี ( ในสมัยนั้นที่พักไม่มีมากเหมือนตอนนี้ ) หลวงตาเห็นดังนั้นท่านก็พูดเสียงแข็งว่า
“ พรุ่งนี้ต้องย้ายไปพักที่อื่นแล้วนะ รู้หรือไม่ว่า ผมเคารพ ครูอาจารย์ลี เหมือนพระอานนท์เคารพพระพุทธเจ้า แต่ในคืนนี้ผมจะนอน 1 คืน เพราะมากลางคืน พรุ่งนี้จะย้ายไปกุฏิขุนธุลีนรนารถ ”
และแล้วองค์หลวงตาก็กล่าวว่า...
“ ที่นอนพระพุทธเจ้า พระอานนท์ยังไม่เอื้อมแขนข้าม
ครูอาจารย์ลีกับผมก็เหมือนกัน
ผมถนัดเรียกท่านว่า ‘ ครูอาจารย์ลี ’
ผมเคารพเหมือนกับหลวงปู่มั่น ”
ขอยกข้อความอีกตอนหนึ่งของ สมเด็จพระสังฆราช ( จวน อุฏฺฐายี ) ได้กล่าวถึงการที่ไม่อยากให้เผาศพท่านพ่อลี เพราะท่านพ่อลีเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์แท้จริงว่า
“ อาจารย์ลี พระอย่างนี้ดีจริง ดีแท้ หายาก ถ้าจะเผานี่ปล่อยให้มันแย่ง 5 นาทีก็เกลี้ยงแล้ว ( แย่งอัฐิธาตุ )
 |
| พระพิมพ์โพธิจักรปางสมาธิ (พิมพ์ใหญ่) เนื้อดิน หลังเรียบ วัดอโศการาม สมุทรปราการ พ.ศ.2500 |
อีกคนหนึ่งเงินเดือนก็ไม่เลื่อนสักที เขาก็ไปขออาจารย์ลีให้เงินเดือนขึ้นหน่อย อีกไม่นานเงินเดือนขึ้น หลายคนด้วยที่เป็นแบบนี้
เป็นผู้ต้องหาคดีอุกฉกรรจ์ติดคุกกำลังจะโดนประหารชีวิต ท่านก็ช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบา ไม่ให้ถูกประหารได้
ยากจนที่สุด เขาจะตายภายในสามสี่วัน ท่านรู้ ก็บอกหวยให้ไปซื้อเอา เมื่อตายแล้วลูกหลานก็ได้เอาเงินนั้นมาทำศพ
 |
| พระพิมพ์โพธิจักรปางสมาธิ (พิมพ์เล็ก) เนื้อดิน หลังเรียบ วัดอโศการาม สมุทรปราการ พ.ศ.2500 |
ทั้งหมดนี้จึงเป็นที่มาของหนังสือและฉายานามของ ท่านพ่อลี ว่า “ พระอริยเจ้าผู้มีพลังจิตแก่กล้า ”
ท่านพ่อลี ธมฺมธโร ท่านเป็นพระผู้ล้ำเลิศด้วยคุณธรรม เป็นที่เคารพบูชาของบรรดาพุทธศาสนิกชนทุกผู้ทุกนาม อีกทั้งบรรดาสานุศิษย์ของท่านก็มีมากมาย ท่านเป็นพุทธทายาทที่องอาจในศีลบารมี สมาธิบารมี และปัญญาบารมี อีกทั้งยังเป็นพระนักปฏิบัติที่องอาจกล้าหาญในการเผยแพร่ธรรมะโดยแท้
ปฏิปทาอันละมุนละไมของท่านพ่อลี ทำให้บรรดาสาธุชนเลื่อมใสทั้งกาย วาจาและใจ ขันติธรรม และเมตตาธรรมของท่าน เป็นที่ซาบซึ้งแก่พุทธบริษัททั้งปวง สั่งสอนอบรมพุทธบริษัทให้เป็นบุคคลพลเมืองดีในชาติ มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง ที่ระลึก ที่บูชา แสงแห่งพุทธธรรมส่องสว่าง โดยพุทธสาวกผู้บริสุทธิ์ ให้ความอบอุ่น สงบสุขแก่ผู้คนทั้งปวง
ท่านพ่อลี ธมฺมธโร จึงเป็นพระเถระที่ได้รับการยอมรับว่า มีพลังอำนาจจิตสูง และสำคัญยิ่งรูปหนึ่งเช่นเดียวกับ ท่านอาจารย์ฝั้น อาจาโร พระอาจารย์ชอบ ฐานสโม ในสายกรรมฐานของท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต
ท่านพ่อลี ได้ประสบความสำเร็จทั้งในทางธรรมและทางโลก
ท่านได้บรรลุภูมิธรรมในขั้นสูงสุด
 |
| เหรียญโพธิจักร (พิมพ์เล็ก) หลังยันต์ดวง ส.๒ วัดอโศการาม สมุทรปราการ เนื้อเงิน พ.ศ.2500 |
ชีวิตและปฏิปทาของท่านจึงมีทั้งสิ่งที่โลกรู้ตามได้และมิอาจรู้ตามได้ ท่านสร้างปริศนาชีวิตให้คนได้ค้นคิดเสมอ ทางไปและทางมาแห่งจิตอันใครๆ ตามรู้ได้ยาก ท่านจัดอยู่ในพระประเภท อจินไตย รูปหนึ่งในวงศ์กรรมฐานยุคปัจจุบัน
พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า “ สิ่งที่เป็นอจินไตย ” มีอยู่ 4 อย่าง คือ
1. วิสัยของพระพุทธเจ้า
 |
| พระพิมพ์โพธิจักร ปางสมาธิ (พิมพ์ใหญ่) เนื้อดิน หลังยันต์ดวงเล็ก วัดอโศการาม สมุทรปราการ พ.ศ.2500 |
3. วิสัยของผู้มีฤทธิ์
4. กฎแห่งกรรม
คำว่า “ อจินไตย ” แปลว่า สิ่งที่ไม่ควรคิด แต่ควรพิจารณาโดยปัญญาขั้นสูง อันปัญญาสามัญมิอาจติดตามให้รู้ได้
หมายความว่า ไม่ควรคิดด้วยหลักของตรรกศาสตร์ เนื่องจากการคิดแบบนี้เป็นการคิดแบบอนุมาน ด้นเดา คาดคะเน เห็นจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ อันจะนำไปสู่ความผิดพลาดได้ง่าย เพราะใช้ความรู้จากประสาทสัมผัส ตาเห็น หูได้ยิน ฯลฯ เป็นพื้นฐานเท่านั้น
ในโลกนี้มีความจริงอยู่มากมาย ที่โลกไม่สามารถพิสูจน์ได้ด้วยวิทยาศาสตร์ เพราะพลังจิตบริสุทธิ์อยู่นอกเหนือประสาทสัมผัสสามัญธรรมดาจะรู้ได้
ปาฏิหาริย์และกฎแห่งกรรม เป็นความจริงอย่างหนึ่งที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ด้วยประสาทสัมผัสอย่างปกติ
 |
| ท่านพ่อลี ธมฺมธโร |
ท่านพ่อลี เป็นพระอริยสงฆ์รูปหนึ่งที่ท่านสามารถพิสูจน์เรื่องนี้ได้โดยถ่องแท้
ชีวิตของท่านจึงมีคุณค่าที่พวกเราต้องเทิดทูนและค้นคว้า...
เพราะหลักฐานการสอนและพื้นฐานอุปนิสัยวาสนาของท่าน จะแตกต่างจากครูบาอาจารย์องค์อื่นๆ
...เป็นมิติหนึ่งที่จะไขปริศนาเรื่องโลกนี้ โลกหน้า ชาตินี้ ชาติหน้า ตายแล้วไปไหน บรรลุธรรมได้อะไร พระอรหันต์เป็นเช่นไร?
นับว่าท่านประสบผลสำเร็จในทางธรรมสมบูรณ์แบบแล้ว
ส่วนในทางโลก ท่านยังได้รับการยกย่องอย่างสูงจากพระเจ้าแผ่นดิน
คือ...เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ท่านยังได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะสามัญที่ พระสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์ พร้อมๆ กับ พระญาณวิสิษฏ์สมิทธิวีราจารย์ ( พระอาจารย์สิงห์ ขนฺตฺยาคโม ) และ พระราชนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาจารย์ ( พระอาจารย์เทสก์ เทสฺรงฺสี ) ในปลายปี พ.ศ.2500
( ที่มา : ลานโพธิ์ ฉบับที่ 1109 ท่านพ่อลี ธมฺมธโร วัดอโศการาม “ พระอริยเจ้าผู้มีพลังจิตแก่กล้า สายท่านพระอาจารย์มั่น ” ตอนที่ 1 ปักษ์หลัง เดือน มกราคม พ.ศ. 2556 ราคาปก 60 บาท )
วันนี้! อ่านหนังสือ ลานโพธิ์ บน i-Pad หรือ Tablet computer ได้ทั่วโลกแล้ว ตามลิงค์นี้
สามารถหาอ่านหนังสือ ลานโพธิ์ ในรูปแบบ E-book ได้แล้วจร้า..
Available Now! You can read whenever, wherever with any device.