“ หลวงพ่อจืด ” วัดโพธิ์เศรษฐีวนาราม อ.เมือง จ.นครปฐม

ภาพและเรื่องโดย ลายทอง คงคาพยนต์

“ หลวงพ่อจืด นิมฺมโล ” เป็นเกจิอาจารย์อีกองค์หนึ่งของเมือง นครปฐม ท่านเป็นศิษย์ผู้สืบทอดพุทธาคมมาจาก หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา ต่อมาไปจำพรรษาอยู่วัดศีรษะทอง แล้วจึงมาสร้างวัดขึ้นใหม่ ณ ตำบลบ่อพลับ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม ได้ชื่อว่า “ วัดโพธิ์เศรษฐีวนาราม ” วัตถุมงคลที่ขึ้นชื่อของท่านคือ “ ต่อเงิน ต่อทอง ”

หลวงพ่อจืด นิมฺมโล อายุ 78 ปี พรรษา 58 ปี วิทยฐานะ นักธรรม ชั้นเอก วัดโพธิ์เศรษฐีวนาราม ตำบลบ่อพลับ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม เจ้าอาวาสรูปแรกของ วัดโพธิ์เศรษฐีวนาราม แต่เดิมมีนามว่า พนม นามสกุล บางแก้ว เกิดวันเสาร์ แรม 2 ค่ำ ปีมะเส็ง ตรงกับ วันที่ 14 มกราคม พ.ศ.2481 ที่บ้านหมู่ที่ 7 ตำบลธรรมศาลา อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม

 พระสมเด็จ หูบายศรี เนื้อผงขาว พิมพ์ใหญ่
บิดาชื่อ นายอ่ำ มารดาชื่อ นางเนย บางแก้ว มีพี่น้อง 6 คน ชาย 4 คน หญิง 2 คน ประกอบอาชีพทำสวน ศึกษาจบมัธยม 6 จากโรงเรียนพระปฐมวิทยาลัย บรรพชาสามเณร “ พนม ” ฉายา นิมฺมโล เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ.2504 อายุ 20 ปี ณ วัดธรรมศาลา ตำบลธรรมศาลา อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม โดยมี พระครูปัจฉิมทิศบริหาร ( หลวงพ่อฉอย ) เป็นพระอุปัชฌาย์


หลวงพ่อจืด นิมฺมโล รับมอบตำราวิชาอาคม
จากหลวงพ่อน้อย ปรมาจารย์ ต.ธรรมศาลา
แห่งวัดธรรมศาลา อ.เมือง จ.นครปฐม

อุปสมบท อายุ 20 ปี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ.2504 เวลา 14.00 น. วัดธรรมศาลา ตำบลธรรมศาลา อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม โดยมี พระครูปัจฉิมทิศบริหาร ( หลวงพ่อฉอย ) เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อน้อย ( พระครูภาวนากิตติคุณ ) วัดธรรมศาลา เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์บุญช่วย ปนฺฑิโต เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระพนม นิมฺมโล จำพรรษาอยู่วัดธรรมศาลา ตำบลธรรมศาลา อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม อยู่กับพระอธิการน้อย เป็นเจ้าอาวาส อยู่ตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ.2504 ถึงวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ.2506


พระผงสีขาวชนะมาร
พิมพ์ใหญ่ เศียรแหลม
พระผงสีขาวชนะมาร
พิมพ์ใหญ่ เศียรโล้น
ต่อมาได้ย้ายสำนักไปอยู่ วัดมงคลจินดาราม ไร่ขิง ตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม เมื่อวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ.2506 เพื่อศึกษาเล่าเรียน โดยมีหนังสือรับรองจาก พระครูปัจฉิมทิศบริหาร ตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอเมือง เป็นผู้ลงนาม เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ.2506

หลังจากนั้นได้ไปอยู่ที่ เขาพ่อปู่ จังหวัดกาญจนบุรี ได้ทำพระราหูแจก จนมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ และได้เปลี่ยนชื่อเป็น “ พระจืด นิมฺมโล ”

23 กรกฎาคม พ.ศ.2520 ได้ย้ายสำนักไปอยู่ที่ วัดนิโครธาราม ตำบลไร่เก่า อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ต่อมาได้ย้ายไปอยู่ที่ สำนักสงฆ์ธรรมจักรคีรีวง ( หนองเอื้อง ) จังหวัดเพชรบุรี

10 ธันวาคม พ.ศ.2526 จึงย้ายสำนักไปอยู่ที่ วัดศีรษะทอง ตำบลศีรษะทอง อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม เหตุที่ย้ายเนื่องจากประชาชนชาวศีรษะทองนิมนต์มาอยู่เพื่อเป็นอาจารย์ ทางวัดศีรษะทองรับเข้าสำนักเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ.2526 และได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดศีรษะทองอยู่ได้ระยะหนึ่ง

ต่อมา สำนักโอภาสี หมู่ที่ 4 ตำบลทุ่งน้อย อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม โดย พระณรงค์ศักดิ์ ได้นิมนต์ให้มาช่วยสร้างวัดระยะหนึ่ง และได้สร้างเหรียญเสมาหล่อโบราณรุ่นแรก ชื่อว่า หน้าการ์ตูน และ ถุงเงิน-ถุงทอง แม่นางกวัก 8 ทิศ


ทำพิธีอธิษฐานจิต และปลุกเสกวัตถุมงคลของท่านเอง
ด้วยความเชื่อมั่น และทุกครั้งท่านจะต้องระลึกถึง
ครูบาอาจารย์ของท่านเสมอ ทำให้วัตถุมงคลของ
หลวงพ่อจืดเป็นที่นิยมและเชื่อถือของประชาชนทั่วไป
การศึกษาอบรม
พ.ศ.2504 สอบนักธรรมชั้นตรี ได้ในสนามหลวง วัดโพรงมะเดื่อ สำนักเรียนวัดธรรมศาลา
พ.ศ.2506 สอบนักธรรมชั้นโท ได้ในสนามหลวง วัดสรรเพชญ์ สำนักเรียนวัดมงคลจินดาราม ( ไร่ขิง )
พ.ศ.2507 สอบนักธรรมชั้นเอก ได้ในสนามหลวง วัดสรรเพชญ์ สำนักเรียนวัดมงคลจินดาราม ( ไร่ขิง )


พิธีไหว้ครู
การศึกษาพุทธาคม ในระหว่างที่อุปสมบทอยู่วัดธรรมศาลา ได้มีโอกาสศึกษาข้อวัตรปฏิบัติและอยู่ใกล้ชิดกับ หลวงพ่อน้อย อินฺทสโร เจ้าอาวาสวัดธรรมศาลา ทำให้ซึมซับคำสั่งสอนจากหลวงพ่อน้อย และเห็นปฏิปทาศีลวัตรสัจคุณงดงาม แนวทางปฏิบัติธรรมจึงมีความศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา เชื่อมั่นในหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้ามากขึ้น จึงไม่ลาสิกขาบท ได้ศึกษาพระปริยัติธรรมในสำนักเรียน สอบได้นักธรรมตรี โท เอก ตามลำดับ ควบคู่ไปกับการศึกษาด้านวิปัสสนากรรมฐาน วิชาอาคมจาก หลวงพ่อน้อย อินฺทสโร ทั้งได้รับความไว้วางใจมอบหมายให้เขียนยันต์จารอักขระ เลขยันต์ต่างๆ ไปด้วย

นอกจากการศึกษาพุทธาคมจากครูบาอาจารย์แล้ว หลวงพ่อจืด นิมฺมโล มีความสนใจในการศึกษาวิปัสสนากรรมฐาน และพุทธาคม จากครูบาอาจารย์หลายรูปที่มีชื่อเสียงในยุคสมัยนั้น


เหรียญเสมา หน้าพระราหู-หลังหลวงพ่อน้อย
(ออกวัดศีรษะทอง หลวงพ่อจืดสร้าง)
พระราหู กะลาตาเดียว
หลังจารยันต์ พิมพ์เสมา
หลวงพ่อจืด นิมฺมโล ได้ตัดสินใจออกจาริกแสวงหาความสงบวิเวกตามป่าเขา ได้มีโอกาสพบกับครูบาอาจารย์ที่เก่งๆ หลายรูป ต่อมาท่านได้รับนิมนต์ให้อยู่จำพรรษาที่วัดศีรษะทอง อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ได้รับการถ่ายทอดวิชาจาก พระอาจารย์สม ซึ่งเป็นศิษย์ของหลวงพ่อน้อย นาวารัตน์ วิชาการสร้าง พระราหู ด้วยกะลาตาเดียว หรือ กะลามหาอุด ตามตำรับ โดยเฉพาะการจารอักขระขอม ลาว เป็นพระคาถาสุริยะประภา และ จันทรประภา ลงกะลาตาเดียว และเป็นรูปพระราหูอมจันทร์ หรือราหูอมพระอาทิตย์


พระราหู กะลาตาเดียว หลังจารยันต์
นอกจากนี้ หลวงพ่อจืด นิมฺมโล ยังได้รับการถ่ายทอดวิชาการสร้าง พญาต่อเงิน พญาต่อทอง จากตำราของ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า เมืองชัยนาท ซึ่งท่านใช้วิชาปลุกเสกพญาต่อเงิน พญาต่อทอง จนมีชื่อเสียงโด่งดัง เช่น

  • ศึกษาตำราของ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค
  • ศึกษาตำราของ หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก
  • ศึกษาวิชาอาคมของ หลวงปู่นาต เสือสมิง จากหลวงพ่อไข่
  • ศึกษาตำราของ หลวงพ่อจ้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
  • ศึกษาตำราจากอาจารย์เขมร ( จำชื่อไม่ได้ ) แก้โรคถูกกระทำ
  • ศึกษาตำราย่างหุ่น แทงหุ่น รักษาโรค จากพระครูแช่ม วัดเกาะหลัก
  • ศึกษาตำรายาจาก อาจารย์ชุบ และตำราอาบน้ำว่านและฝังเข็ม
  • ศึกษาการลงน้ำมัน 7 เสาร์ 7 อังคาร ตับทองแดง จากอาจารย์น้อย ( เป็นฆราวาส )


จะเห็นได้ว่า การสร้างวัตถุมงคลของหลวงพ่อจืด นิมฺมโล ทุกครั้ง ท่านมีความตั้งใจใช้สมาธิจิตอย่างมุ่งมั่น ตามตำรับตำราโบราณของครูบาอาจารย์ที่ท่านได้ศึกษามา เช่น การสร้าง พระพิมพ์ชนะมาร รุ่นแรก ของท่าน ท่านชักผงพุทธคุณและว่านต่างๆ โดยท่านไปหาเก็บว่านเองที่เขาตาธี อำเภอยะหา จังหวัดยะลา ในสมัยนั้นได้ทำตามตำรับสร้างพระของหลวงปู่ทวด

หลวงพ่อจืด นิมฺมโล กับการสร้างสวนปฏิบัติธรรมโพธิเศรษฐี จากที่กล่าวมาแล้วในเบื้องต้น ความนำ ก่อนที่จะมีสวนปฏิบัติธรรม โพธิเศรษฐี นั้น หลวงพ่อได้รับนิมนต์ให้มาอบรมการปฏิบัติธรรมให้กับชาวตำบลบ่อพลับหลายครั้ง เดินมาบิณฑบาตกับพระลูกศิษย์ พระอาทิตย์ ( จ้อน ) ฉิมพาลี พากันไปสำรวจบริเวณทุ่งนาและสวนมีต้นโพธิ์ใหญ่อยู่กลางทุ่งนา ต่อมาชาวบ้านต้องการให้สร้างวัดขึ้น เพื่อใช้เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจในทางพระพุทธศาสนา เนื่องจากตำบลบ่อพลับไม่มีวัด ท่านจึงพิจารณาว่า “ เป็นภาระที่หนัก ” โดยเฉพาะวัดที่จะสร้างใหม่จากจุดเริ่มต้นที่เป็นศูนย์ ไม่มีอะไรเลย


พญาต่อ เนื้อทองเหลือง พ.ศ.2540
พญาต่อ เนื้อทองเหลือง พ.ศ.2541
พญาต่อ เนื้อทองเหลือง พิมพ์จัมโบ้ พ.ศ.2544
พญาต่อ เนื้อโลหะผสม พ.ศ.2545
“ ท่านจึงตั้งจิตอธิษฐานขอบารมีจากหลวงพ่อน้อย อินฺทสโร, หลวงพ่อน้อย นาวารัตน์ และหมอสม ผู้เป็นครูบาอาจารย์ ขอใช้วิชาที่ได้รับการถ่ายทอดมาเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม ทั้งเป็นการสืบทอดวิชาความรู้พุทธาคม และการปฏิบัติธรรมตามแนวทางพระพุทธศาสนาต่อไป ”


อาจารย์จืด นิมฺมโล ศิษย์หลวงพ่อน้อย อินทสโร
บุคคลแรกที่ท่านไปขอคำปรึกษา คือ อาจารย์ทินกร ศศิโรจน์ อดีตรองผู้อำนวยการโรงเรียนราชินีบูรณะ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นโรงเรียนพระปฐมวิทยาลัย ปี พ.ศ.2499 ท่านเป็นคนตำบลบ่อพลับ โดยเดินทางไปกับ พระอาทิตย์ ( จ้อน ) ฉิมพาลี ที่บ้านของท่านอาจารย์ทินกร ศศิโรจน์ โดยมีวัตถุประสงค์จะสร้างวัดขึ้นที่ หมู่ที่ 6 ตำบลบ่อพลับ ซึ่งได้ดูสถานที่และบริเวณมาแล้ว ต่างฝ่ายเห็นดีด้วย หลังจากนั้น อาจารย์ทินกร ศศิโรจน์ จึงไปขอคำปรึกษาจาก นายพิณ กันตะเพ็ง อดีตศึกษาธิการอำเภอกำแพงแสน และ นายเจรียง สัตยาพันธุ์ อดีตครูใหญ่โรงเรียนศาลเจ้าวัดกลาง ( โรงเรียนบ้านบ่อพลับในปัจจุบัน ) ทั้งสองท่านเป็นชาวบ่อพลับเช่นเดียวกัน เห็นดีด้วยจึงเริ่มบริจาคทรัพย์คนละ 10,000 บาท รวมเป็น 20,000 บาท โดยเปิดบัญชีเป็นครั้งแรกเพื่อสร้างวัด จะให้ใช้ชื่อว่า “ วัดกลางโพธิเศรษฐี ” จากจุดเริ่มต้นครั้งนี้ การสร้างสวนปฏิบัติธรรม โพธิเศรษฐี จึงเริ่มขึ้น บนพื้นที่ดินบริเวณนี้ทั้งหมดซึ่งเดิมเป็นที่ดินของบรรพบุรุษ ผู้ตั้งนามสกุล มณฑาสุวรรณ เจ้าของเดิมคือ นายทอง ต้นตระกูล มณฑาสุวรรณ ต่อมาได้มอบมรดกให้ นายไป๋ มณฑาสุวรรณ จนมาเป็นสมบัติของลูกหลานเหลน จึงได้ขายให้เพื่อสร้างวัด


อาจารย์จืด นิมฺมโล
ในระหว่างที่ดำเนินการพัฒนาสร้างสวนปฏิบัติธรรมอยู่นั้น มีพระลูกศิษย์มาคอยดูแลอยู่ใกล้ชิด ช่วยเหลือหลวงปู่อยู่เป็นประจำ ได้แก่ พระมหาเกรียงศักดิ์ ฉนฺทยตฺโต พระปณิต ฐิติสํวโร พระอาทิตย์ ( จ้อน ) ฉิมพาลี และได้มีการทำบุญเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ.2536

ต่อมาจัดสร้างศาลามุงจากให้หลวงพ่ออยู่กับพระลูกศิษย์ และวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ.2537 ตรงกับวันออกพรรษา ตักบาตรเทโวโรหนะ แรม 1 ค่ำ จึงเป็นวันแรกที่เริ่มก่อตั้งสวนปฏิบัติธรรมโพธิเศรษฐี นับเป็นวันแรกของการสร้างวัด มีการพัฒนาขึ้น มีศาสนสถาน ศาสนวัตถุ จัดสวน ร่มไม้ไพรพฤกษ์ ร่มเย็นเขียวขจี สวยสะอาดเป็นธรรมชาติ สงบเหมาะสมในการปฏิบัติธรรม

ต่อมาได้รับประกาศตั้งเป็น วัดโพธิ์เศรษฐีวนาราม สังกัด คณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม พ.ศ.2558 และ หลวงพ่อจืด นิมฺมโล ได้รับแต่งตั้งสมณศักดิ์เป็น เจ้าอาวาส ตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ.2558 เป็นต้นมา ท่านจึงเป็นปฐมเจ้าอาวาสของ วัดโพธิ์เศรษฐีวนาราม


( ที่มา : ลานโพธิ์  ฉบับที่  1199 “ หลวงพ่อจืด ” วัดโพธิ์เศรษฐีวนาราม อ.เมือง จ.นครปฐม ปักษ์หลัง เดือน ตุลาคม พ.ศ. 2559 ราคาปก 60 บาท )


วันนี้อ่านหนังสือ ลานโพธิ์ บน i-Pad หรือ Tablet computer ได้ทั่วโลกแล้ว ตามลิงค์นี้ 


สามารถหาอ่านหนังสือ ลานโพธิ์ ในรูปแบบ E-book ได้แล้วจร้า.. 




Available Now!  You can read whenever, wherever with any device.


 BangkokSarn App on Google Play store
    Lanpo App on Google play Store    Ookbee Book Shop   Meb Market Book Shop  
 Lanpo App on Google Play Lanpo App on iTunes

#ลานโพธิ์ #หลวงพ่อจืด #วัดโพธิ์เศรษฐีวนาราม #จ.นครปฐม