พระยอดขุนพล ยอดแห่งมั่งมีศรีสุข หลวงพ่อขันธ์ วัดพระศรีอารย์ จ.ราชบุรี

พระยอดขุนพล พิมพ์เล็ก หลวงพ่อขันธ์
วัดพระศรีอารย์ จ.ราชบุรี

เรื่องโดย ลายทอง คงคาพยนต์

มนต์ เมืองเหนือ อดีตนักร้องดัง แขวน พระยอดขุนพล วัดพระศรีอารย์ เพียงองค์เดียวแท้ๆ รอดพ้นจากอุบัติเหตุขณะขับรถยนต์บนถนนสายเอเชีย ก่อนถึงวัดอัมพวัน สิงห์บุรี เพียงเล็กน้อย ด้วยความเร็วสุดๆ รถยนต์พลิกคว่ำข้ามเกาะกลางถนน แหลกละเอียด บริษัทประกันจ่ายให้แด่เศษเหล็ก ปรากฏว่าในตัวไม่มีบาดแผลหรือร่องรอยอะไรแม้แต่น้อย นับเป็นปาฏิหาริย์ที่เหลือเชื่อ แบบไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ใครๆ ที่เห็นสภาพรถแล้วทุกคนบอกคำเดียวกันว่า รอดยาก แต่ก็รอดมาแล้ว ด้วยอานุภาพแห่ง พระยอดขุนพล หลวงพ่อขันธ์ วัดพระศรีอารย์ ของดีที่มีประสบการณ์เป็นร้อยๆ ราย

พระยอดขุนพล พิมพ์ใหญ่ หลวงพ่อขันธ์
วัดพระศรีอารย์ จ.ราชบุรี

นางสนม ศรีวิไล ข้าราชการสำนักอัยการสูงสุด บ้านอยู่อำเภอเมือง จ.ราชบุรี เป็นอีกรายหนึ่งที่มีความศรัทธาเลื่อมใส หลวงพ่อขันธ์ เป็นอย่างมาก เพราะได้รับประสบการณ์จากการแขวน พระยอดขุนพล ของหลวงพ่อขันธ์ เธอเล่าประสบการณ์อันน่าระทึกใจให้ฟังว่า เมื่อปี พ.ศ.2540 เธอไปทำหน้าที่เป็นโฆษกในร้านอัยการ งานกาชาด ที่สวนอัมพร จนถึงวันที่ 28 มีนาคม 2540 หลังจากทำหน้าที่เสร็จจากงานเวลาประมาณ 4 ทุ่ม เธอได้นั่งรถแท็กซี่เตรียมกลับบ้านพักในกรุงเทพฯ ขณะรถจอดติดไฟแดงอยู่สี่แยกวิสุทธิกษัตริย์ เธอนั่งอยู่เบาะหลังเพียงคนเดียว เสียงดังสนั่นหวั่นไหวจนเธอหมดสติไป ทราบภายหลังว่ารถบรรทุกของทหารวิ่งมา ด้วยความเร็ว เบรกไม่อยู่ชนท้ายแท็กซี่ด้านที่เธอนั่งมาแหลกละเอียด ร่างของเธอถูกอัดแน่นอยู่ในรถ เจ้าหน้าที่มูลนิธิงัดเอาร่างเธอออกส่งไปโรงพยาบาลวชิระ ซึ่งอยู่ใกล้ที่สุด

นางสนม ศรีวิไล ข้าราชการสำนักอัยการสูงสุด

หมอตรวจสภาพแล้วลงความเห็นว่าสิ้นชีวิต เตรียมส่งเข้าห้องดับจิต ในระหว่างนั้นเธอเล่าว่าไม่รู้ว่ารถชนด้วยซ้ำไป แต่เหมือนนอนหลับและฝันไปว่าตัวเธอนอนอยู่ในโลงศพ ขณะมีคนแบกโลงศพของเธอเดินไปมีพระภิกษุสงฆ์องค์หนึ่งมาบอกว่า คนนี้อย่าเพิ่งเอาไปขอบิณฑบาตไว้ก่อน

พอรุ่งเช้า ร่างของเธอที่เตรียมเข้าห้องดับจิตนั้น มีหมอเวรใหม่เข้ามาดูก่อนให้เจ้าหน้าที่พาไป ก็พบว่าเธอยังไม่เสียชีวิต จึงนำเข้าห้อง ไอ.ซี.ยู จนบรรดาญาติจากราชบุรีมาถึง จึงขอย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลเมืองราชบุรี หมอที่ราชบุรีบอกว่า ไม่ตายก็คงพิการ เพราะกระดูกคอแตก เบ้าตาแตกคงต้องตาบอด เธอนอนรักษาตัวอยู่นานถึง 8 เดือน อาการดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ถึงวันนี้ร่างกายเธอหายเป็นปกติดีทุกอย่าง เธอเล่าว่า ในคอเธอแขวน พระยอดขุนพล ของ หลวงพ่อขันธ์ วัดพระศรีอารย์ เพียงองค์เดียวเท่านั้น

อุโบสถทองคำ วัดพระศรีอารย์

วัดพระศรีอารย์ ตั้งอยู่หมู่ที่ 9 ตำบลบ้านเลือก อำเภอโพธาราม จ.ราชบุรี โดยมีพื้นที่บริเวณวัดโดยรอบประมาณ 40 ไร่ รอบๆ บริเวณวัดโดยทั่วไปเป็นป่าโปร่ง มีต้นไม้ใหญ่อยู่มากมาย มีบรรยากาศร่มรื่น เหมาะแก่การใช้เป็นแหล่งปฏิบัติธรรมเป็นอย่างยิ่ง วัดพระศรีอารย์ นับได้ว่าเป็นวัดที่มีศาสนสถานและศาสนวัตถุ ที่มีค่าควรแก่การศึกษาเป็นอย่างมาก ซึ่งประวัติของ วัดพระศรีอารย์ นั้น มีความเป็นมา ดังต่อไปนี้

พระหยกขาว พระประธาน
ในโบสถ์ทองคำ

เดิมวัดพระศรีอารย์ ชื่อวัดสะอาน สันนิษฐานว่า วัดพระศรีอารย์ ได้เริ่มสร้างขึ้นมาเมื่อประมาณปี พ.ศ.2275 ซึ่งแต่ก่อนเป็นวัดร้างยังไม่มีพระมาอยู่จำพรรษา เป็นวัดเก่าที่มีมาช้านาน ทราบแต่เพียงว่ามีผู้พบอุโบสถหลังเล็กๆ ขนาดกว้าง 7.75 เมตร ยาว 15 เมตร กำแพงรอบๆ อุโบสถก่ออิฐถือปูน ซึ่งในขณะที่ค้นพบนั้นมีสภาพเก่าและชำรุดทรุดโทรมเป็นอย่างมาก โดยในอุโบสถมีพระประธานที่เก่าแก่เป็นอิฐดินเผาถือปูน ซึ่งได้ตั้งตระหง่านเป็นพระประธานอยู่ในอุโบสถ บริเวณรอบๆ อุโบสถเป็นป่า มีต้นไม้ใหญ่น้อยขึ้นปกคลุมอยู่ทางด้านทิศเหนือของอุโบสถ มีสระดินขนาดใหญ่ จนถึงประมาณปี พ.ศ.2460 เริ่มมีพระสงฆ์เข้ามาพักจำพรรษาเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ต่อมา วัดสะอาน ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น วัดพระศรีอารย์ เมื่อปี พ.ศ.2500 ได้รับพระราชทานเป็นวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ.2510 ซึ่งตั้งแต่มีพระเข้ามาจำพรรษา ได้มีเจ้าอาวาสเข้ามาปกครองดูแล วัดพระศรีอารย์ มาตามลำดับ ดังนี้

1. พระอธิการแถว

2. พระอธิการบุญ

3. พระอธิการอินทร์ ธฺมมโชติ ตั้งแต่ พ.ศ.2475 ถึง พ.ศ.2493

4. พระครูสิริพัฒนกิจ (ขันธ์กนฺตธโร) ตั้งแต่ พ.ศ.2493 ถึง พ.ศ.2534

5. พระครุสมุห์สง่า ฐานิสฺสโร เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน

พระยอดขุนพล พิมพ์กลาง หลวงพ่อขันธ์
วัดพระศรีอารย์ จ.ราชบุรี

วัดพระศรีอารย์ ในยุคก่อน วัดยังไม่ค่อยมีอะไรมากมายนัก พระที่แวะเวียนเข้ามาอยู่จำพรรษา ก็เพียงแต่เข้ามาอยู่โดยมิได้มีการพัฒนาวัดแต่อย่างใด วัดพระศรีอารย์ ได้เริ่มมีการพัฒนาอย่างจริงจัง ในสมัยที่ พระครูสิริพัฒนกิจ หรือ หลวงพ่อขันธ์ เป็นเจ้าอาวาสวัดพระศรีอารย์ และเจ้าคณะตำบลบ้านเลือก-หนองโพ โดยท่านได้ทำการปรับพื้นที่วัดทั้งหมด และเริ่มทำการบูรณะปฏิสังขรณ์สิ่งก่อสร้างที่มีอยู่เดิม และเริ่มก่อสร้างศาสนสถานและศาสนวัตถุต่างๆ ไว้มากมาย

หลวงพ่อขันธ์ กนฺตธโร (พระครูสิริพัฒนกิจ) เดิมชื่อ นายขันธ์ นามสกุล พุ่มเกษม เกิดวันที่ 25 เดือนเมษายน พ.ศ.2466 สัญชาติไทย เชื้อชาติไทย ศาสนาพุทธ ภูมิลำเนาบ้านอีจาง หมู่ 1 ตำบลวังเย็น อำเภอบางแพ จ.ราชบุรี หลังจากอุปสมบทแล้วเพียงพรรษาที่ 2 ก็รักษาการเจ้าอาวาส วัดพระศรีอารย์ ด้วยคุณงามความดี มีความศรัทธาจากชาวบ้าน ครบ 5 พรรษา ท่านได้รับเป็นเจ้าอาวาส วัดพระศรีอารย์ และรับแต่งตั้งเป็น พระครูศัพทวิมล ต่อมาอีก 2 ปี ท่านได้เลื่อนเป็นเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นโทที่ พระครูสิริพัฒนกิจ และได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลบ้านเลือก-หนองโพ

หลวงพ่อขันธ์ วัดพระศรีอารย์

เมื่อครั้งมีชีวิตอยู่ หลวงพ่อขันธ์ ได้ทำคุณประโยชน์อเนกอนันต์ ทั้งในกิจของพระพุทธศาสนาและกิจของฆราวาสวิสัย หลวงพ่อขันธ์ ท่านได้พัฒนา วัดพระศรีอารย์ เป็นลำดับ

• ก่อสร้างอุโบสถหลังใหม่

• ก่อสร้างศาลาการเปรียญ

• กุฏิเสริมเหล็ก 3 ชั้น

• ซ่อมแซมอุโบสถหลังเก่า

• พัฒนาหมู่บ้าน พระศรีอารย์ นำไฟฟ้า นำประปาเข้าสู่หมู่บ้าน

• ตัดถนนเข้าสู่วัด และหมู่บ้านทำให้เกิดการเชื่อมประสานระหว่างวัดและหมู่บ้าน

หลวงพ่อขันธ์ในงานทำบุญอายุหลวงพ่อขันธ์
ขณะบำเพ็ญสมณกิจ

หลวงพ่อขันธ์ ท่านเป็นผู้มีใจใฝ่ในการศึกษาเล่าเรียน ท่านแตกฉานด้านวิปัสสนากัมมัฏฐาน จิตศาสตร์ โดยได้ฝากตัวเป็นศิษย์ของ หลวงพ่อรอด วัดหลวง, หลวงพ่อแหยม วัดบ้านเลือก และหลวงพ่ออินทร์ วัดโบสถ์ จึงมีความสามารถทางวิปัสสนาและพุทธาคมอย่างยิ่งยวด สามารถล่วงรู้จิตใจคนที่พบและสนทนาด้วย ชาวบ้านมีทุกข์ร้อนเมื่อไปหาท่าน ก็สามารถคลี่คลายแก้ไขให้ด้วยความหยั่งรู้ด้วยภูมิธรรมอันสูงส่ง มงคลวัตถุที่ท่านสร้างไม่ว่าจะเหรียญหรือตะกรุด ล้วนแต่มีความขลังและประสบการณ์มากมาย หลวงพ่อขันธ์ กนฺตธโร จึงเป็นที่เคารพศรัทธาและเลื่อมใสในศีลาจารวัตรและปฏิปทา ทั้งจากภิกษุสงฆ์และประชาชนชาวบ้านทั่วไป ด้วยเมตตาบารมีที่สูงส่ง ท่านได้จัดสร้างวัตถุมงคลเพื่อให้ประชาชนได้ นำไปบูชาสักการะเป็นสิริมงคลแก่ตน นอกจากนั้นได้แจกให้ทหารที่ไปปฏิบัติราชการ ณ สมรภูมิเวียดนาม อันได้แก่ กองพลเสือดำ (ในสมัยนั้น) ทหารที่ได้รับแจกวัตถุมงคลของหลวงพ่อไปล้วนปลอดภัย แคล้วคลาดภยันตรายจากศัตรูทั้งสิ้น

พระพุทธกวัก พิมพ์ห้าเหลี่ยม หลวงพ่อขันธ์
วัดพระศรีอารย์ จ.ราชบุรี

วัตถุมงคลที่ท่านสร้างเมื่อ พ.ศ.2504 ต่อมาได้รับฉายาว่า พระเครื่อง พระยอดขุนพล แห่งลุ่มน้ำแม่กลอง นับเป็นมงคลวัตถุที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง เนื่องจากมีประสบการณ์การใช้มากมาย โดยเฉพาะในทางโชคลาภและคงกระพันชาตรี วัตถุมงคลที่เรียกว่า พระยอดขุนพล นี้ ท่านใช้มวลสารธรรมชาติ ได้แก่ แร่และว่าน โดยแร่นั้นได้มาจากแร่เขาเขียว กากพญายักษ์ จากกรุหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ ปัตตานี ดินกรุจากกรุต่างๆ ทั่วประเทศ ส่วนว่าน 108 มาจากประเทศมาเลเซีย เนื่องจากชาวมาเลเซียเป็นผู้เคารพเลื่อมใสในหลวงพ่อขันธ์ นำมามอบให้ อาทิ พญาหัวเดียว ข้าวสารดำ ขมิ้นดำ พญางิ้วดำ และเกสรดอกสาละ เป็นต้น พระเครื่องชุดนี้มี 5 พิมพ์ ด้วยกันคือ พระยอดขุนพล พิมพ์ใหญ่, พระยอดขุนพล พิมพ์กลาง, พระยอดขุนพล พิมพ์เล็ก, พระพุทธกวัก พิมพ์โค้ง, พระพุทธกวัก พิมพ์หน้าจั่ว หรือที่บางคนเรียกว่า พิมพ์ 5 เหลี่ยม

พระพุทธกวัก หลวงพ่อขันธ์
วัดพระศรีอารย์ จ.ราชบุรี

นอกจากพระเครื่อยอดขุนพลแล้ว หลวงพ่อขันธ์ ยังได้จัดสร้าง พระพุทธรูปพระศรีอาริย์ ขนาดหน้าตักกว้าง 5 นิ้วด้วย วัตถุมงคลของ หลวงพ่อขันธ์ เป็นที่ยอมรับในหมู่ของประชาชน และผู้นิยมสะสมพระเครื่องตลอดมา ในทางพุทธคุณ เมตตามหานิยม แคล้วคลาด คงกระพันชาตรี

ปัจจุบัน วัดพระศรีอารย์ ภายใต้การปกครองดูแลของ ท่านพระครูสมุห์สง่า ฐานิสฺสโร เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน และเจ้าคณะตำบลบ้านเลือก-หนองโพ ได้สืบทอดเจตนารมณ์ของหลวงพ่อขันธ์ ในการพัฒนาและปรับปรุงวัดพระศรีอารย์ให้เจริญขึ้นมากที่สุด โดยท่านได้ทำการพัฒนาปรับปรุงและพัฒนาวัด และได้ก่อสร้างทั้งทางด้านศาสนสถานและศาสนวัตถุ ทั้งต่อเติมและเพิ่มเติม ซึ่งโดยลำดับความสำคัญได้ ดังนี้

1. ทำการปรับปรุงสถานที่บริเวณรอบๆ วัดให้ร่มรื่นร่มเย็นและสวยงาม เพื่อให้เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม จนกระทั่งวัดพระศรีอารย์ ได้รับการเลือกให้เป็นอุทยานการศึกษา

2. ก่อตั้งค่ายลูกเสือสิริพัฒนกิจ ไว้เพื่อเป็นที่สำหรับอบรมผู้บังคับบัญชาลูกเสือและผู้บังคับบัญชายุวกาชาด ซึ่งก็ได้มีคณะเข้ามาใช้สถานที่ในการอบรมอยู่ตลอดมา

3. ดำเนินการสร้างอุโบสถหลังใหม่ ต่อจากเจ้าอาวาสองค์เก่าให้สำเร็จลุล่วง

4. ได้ทำการอัญเชิญพระประธานหยกขาว ซึ่งทำด้วยหยกแท้ มีขนาดหน้าตักกว้างประมาณ 5 ศอกคืบ เพื่อไว้สำหรับประดิษฐานเป็นพระประธานในอุโบสถหลังใหม่ ที่กำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่ในขณะนี้

สรีระร่างของหลวงพ่อขันธ์ ในโลงแก้วไม่เน่าเปื่อย

วัดพระศรีอารย์ ในปัจจุบันเนื่องจากมีโครงการสำคัญๆ หลายอย่างเข้ามา อาทิเช่น โครงการอุทยานการศึกษา, โครงการอบรมผู้บังคับบัญชาลูกเสือ, โครงการอบรมผู้บังคับบัญชายุวกาชาด เป็นต้น อีกทั้งทางด้านศาสนสถานก็ต้องเร่งสร้างให้แล้วเสร็จ และต้องสร้างสิ่งใหม่ๆ ขึ้นมา เพื่อสำหรับรองรับโครงการสำคัญต่างๆ ที่กำลังเข้ามา และเพื่อให้วัดเป็นศาสนสถานที่เพียบพร้อมและสมบูรณ์มากที่สุด เพื่อสำหรับให้พุทธศาสนิกชนทั่วไปได้อาศัยวัดเป็นที่พึ่งทั้งทางกายและทางจิตใจ ด้วยพิธีกรรมทางศาสนาและการปฏิบัติเพื่อให้หลักธรรมเข้าชำระจิตใจ เพื่อก่อให้เกิดความผ่องใสทั้งทางด้านกายและจิตใจ ด้วยความเจริญแห่งสัจธรรมที่ว่า เมื่อมีจิตใจที่ผ่องใสจะทำการสิ่งใดก็ย่อมบรรลุผล และสำเร็จสมบูรณ์ได้ในที่สุด

อุโบสถหลังเก่า ศาสนสถานเก่าแก่คู่วัดพระศรีอารย์ มาตั้งแต่ดั้งเดิม คาดว่าสร้างขึ้นเมื่อปี 2275 ได้ทำการบูรณะปฏิสังขรณ์เมื่อปี พ.ศ.2510 ซึ่งสิ่งที่ยืนยันได้ว่าเป็นโบราณสถานก็คือ เจดีย์เก่า และพระประธานเก่าแก่ที่ประดิษฐานอยู่ในอุโบสถ โดยอุโบสถมีขนาดกว้าง 7.75 เมตร ยาว 15 เมตร ทางด้านทิศเหนือของอุโบสถ มีสระน้ำขนาดใหญ่ ในปัจจุบันอุโบสถยังใช้เป็นสถานที่สำหรับประกอบพิธีกรรมทางพุทธศาสนาอยู่ เนื่องจากอุโบสถหลังใหม่กำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งต่อไปในอนาคตข้างหน้า เมื่ออุโบสถหลังใหม่สำเร็จแล้ว ทางวัดจะทำการอนุรักษ์ไว้เป็นโบราณวัตถุ เพื่อให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษาต่อไป

อุโบสถหลังใหม่ที่หลวงพ่อสง่าท่านดำเนินการสร้างสืบต่อจากหลวงพ่อขันธ์ โดยได้นำ พระยอดขุนพล ที่หลวงพ่อขันธ์สร้างไว้ให้คนทำบุญเป็นสิ่งสำคัญ ปัจจุบันโบสถ์หลังใหม่นี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ด้วยฝีมือของ ช่างประเสริฐ อรชร มีความงดงามด้วยศิลปะไทย และลวดลายปูนประดับกระจกและทอง จนได้ชื่อว่า พระอุโบสถทองคำ เป็นแห่งเดียวในประเทศไทยก็ว่าได้ ท่านผู้ใดผ่านไปควรอย่างยิ่งที่จะไปชมโบสถ์ทองคำ อันงดงามแห่งนี้ และได้นมัสการ พระหยกขาว พระพุทธรูปสำคัญซึ่งเป็นพระประธานในโบสถ์ทองคำแห่งนี้

เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ พระยอดขุนพล หลวงพ่อขันธ์ วัดพระศรีอารย์ ขณะนี้ยังมีเหลืออยู่บ้างเพียงเล็กน้อย หลวงพ่อสง่ายินดีจะมอบให้ ท่านผู้อ่านลานโพธิ์ ที่ร่วมทำบุญกับวัดพระศรีอารย์ พระยอดขุนพล ทั้ง 5 พิมพ์ ได้แก่ พิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง พิมพ์เล็ก พิมพ์พุทธกวัก และพิมพ์ห้าเหลี่ยม ทั้ง 5 พิมพ์นี้มีอยู่ไม่มากนัก ใครไปก่อนได้ก่อน เพื่อป้องกันความผิดหวัง ท่านสามารถโทรศัพท์ไปที่ 0-3223-2595 ก็ได้

พระยอดขุนพล วัดพระศรีอารย์ ที่ว่าหายากและเป็นที่หวงแหน ปัจจุบันโอกาสเป็นของท่านผู้อ่านลานโพธิ์แล้ว นับเป็นข่าวดีที่มามอบให้ทุกท่านแล้ว จังหวัดราชบุรีห่างจากกรุงเทพฯเพียง 100 กิโลเมตร แต่อำเภอโพธาราม อยู่ก่อนจังหวัดราชบุรี ขับรถเพียงอึดใจเดียวท่านก็สามารถได้ชม โบสถ์ทองคำ อันงดงาม ได้นมัสการพระหยกขาว และได้สนทนาธรรมกับ หลวงพ่อสง่า พระเถระที่มีศีลาจารวัตรงดงาม เจรจาธรรมได้ประทับใจและซาบซึ้งยิ่ง ท่านที่มีโอกาสได้สนทนาธรรมกับท่านแล้วมักจะแวะเวียนไปอยู่เสมอ เพราะจะได้รับแต่ความสงบ สบายใจ แม้กระทั่ง อาร์.เอส.โปรโมชั่น เจ้าของค่ายเทปเพลงใหญ่ของประเทศไทย ก็มักจะแวะเวียนไปอยู่เสมอ ตั้งแต่สมัยหลวงพ่อขันธ์ ยังมีชีวิตอยู่ จนถึง หลวงพ่อสง่า เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน ขอกระซิบว่า เถ้าแก่ อาร์.เอส.ฯ ก็แขวน พระยอดขุนพล วัดพระศรีอารย์

มิน่าเล่าถึง " ยอดแห่งมั่งมีศรีสุข "

( ที่มา : ลานโพธิ์ ฉบับที่ 911 ปักษืหลัง เดือนกันยายน 2547 : พระยอดขุนพล หลวงพ่อขันธ์ วัดพระศรีอารย์ จ.ราชบุรี ภาพและเรื่องโดย ลายทอง คงคาพยนต์)