หลวงปู่หุ่น วัดบางขวด ( วัดนวลจันทร์ ) เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร

ภาพและเรื่องโดย เอกลักษณ์ เพริศพริ้ง

หลวงปู่หุ่น สุวณฺณสโร
วัดนวลจันทร์ (บางขวด)

เมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๕ วัดนวลจันทร์ ( วัดบางขวด ) จะจัด “ พิธีพุทธาภิเษกพระปิดตา ” ขึ้น ทั้งก่อนหน้าพิธีเสกพระ ๓ วัน ทางวัดจะต้องนำ “ ผ้าป่า ” ไปถวาย ณ วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ( กำหนดวันทอดผ้าป่ามีมาก่อนกำหนดวันเสกพระ และที่ต้องไปเชียงใหม่ก็เพราะว่า วัดบางขวด ได้อุปถัมภ์วัดแห่งนี้อยู่ )

ก่อนถึงพิธีพุทธาภิเษก ทางวัดได้เริ่มเตรียมความพร้อมต่างๆ ทั้งทำความสะอาดพื้นที่ภายในและรอบๆ วัด ทั้งติดป้ายประชาสัมพันธ์ ตั้งปะรำพิธีกลางแจ้ง ทั้งจัดพื้นที่ภายในโบสถ์ ( บริเวณที่ใช้เสกพระ ) ฯลฯ “ การนี้ได้นำภาพถ่าย หลวงปู่หุ่น มาตั้งไว้บนธรรมาสน์ เพื่ออัญเชิญพระวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ของท่านให้มาเป็นประธานในพิธี ” ( เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของทางวัด ไม่ว่าจะเป็นการเสกพระ หรือการจัดงานไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ก็จะต้องบวงสรวงอัญเชิญท่าน )

เหรียญหลวงปู่หุ่น รุ่นแรก ปี 2511
เนื้ออัลปาก้า (ไม่ทันหลวงปู่หุ่น)

เหรียญหลวงปู่หุ่น รุ่นแรก ปี 2511
เนื้อทองแดง (ไม่ทันหลวงปู่)

ขณะเดียวกันคณะกรรมการวัดอีกชุดหนึ่งก็ออกเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ด้วยรถตู้ของวัด ( ออกตอนเย็น ) ส่วนกำหนดการก็คือ “ เดินทางตอนเย็นให้ถึงวัดที่เชียงใหม่ในตอนเช้า ครั้นพอถวายผ้าป่าเสร็จก็กลับเข้า กรุงเทพฯ ทันที เพราะวันถัดไปก็จะเป็นวันทำพิธีพุทธาภิเษกพระปิดตา ”

รูปหล่อหลวงปู่หุ่น ปี 2511 (ไม่ทันหลวงปู่หุ่น)

เหรียญหลวงปู่หุ่น แจกแม่ครัว ปี 2511
เนื้ออัลปาก้า (ไม่ทันหลวงปู่หุ่น)

พอถึงเวลา ๒๒.๐๐ น. กว่าๆ รถตู้ ก็อยู่ปลายๆ ของจังหวัดกำแพงเพชรกำลังมุ่งหน้าเข้าจังหวัดตาก ตอนนั้นใช้ความเร็วประมาณ ๑๔๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยอยู่เลนขวา ขณะนั้นมี รถ ๑๐ ล้อ วิ่งอยู่ข้างหน้าเลนซ้าย ( วิ่งเร็วอยู่ขวา วิ่งช้าอยู่ซ้ายนี่คือกฎการใช้ถนน ) “รถตู้กำลังจะขับแซง จู่ๆ เพลารถ ๑๐ ล้อก็เกิดหลุดโพละลงมาแล้วสะบัดขวางถนน สำหรับตัวรถ ๑๐ ล้อเองเมื่อเพลาหลุดรถก็เอียงวูบไปทางซ้าย โดยส่วนที่เป็นโลหะบริเวณช่วงล่างได้ครูดกับผิวถนนจนเกิดเป็นประกายไฟสว่างวาบๆ ”

พอเพลาเหล็กหลุดลงมาขวางถนนแบบกะทันหัน และรถตู้ก็วิ่งมาด้วยความเร็วอย่างกับจรวด การปะทะกันระหว่างเหล็กกับเหล็กจึงไม่อาจหลีกเลี่ยง นั่นจึงทำให้รถตู้พุ่งชนเข้ากับเพลารถสิบล้ออย่างจัง! เมื่อรถปะทะกับเพลาเหล็กอย่างแรง รถก็หยุดกึกมิได้ไถลลงข้างทางหรือพลิกคว่ำพลิกหงายไปไหน คนขับรถยืนยันอย่างหนักแน่นว่าเหมือนมีใครมาดึงรถเอาไว้

หากถามผู้เขียนว่า “ แปลกไหม ” ผู้เขียนขอตอบตรงๆ ว่า “ แปลก แปลกมากๆ ซะด้วยสิ ” เพราะถ้าหากรถเกิดปะทะเข้ากับเหล็ก หรือก้อนหิน หรือสิ่งของที่มีน้ำหนักและมีความสูงไม่เกินไฟหน้ารถด้วยความเร็ว ส่วนใหญ่รถก็จะเสยของสิ่งนั้นแล้วพุ่งเหินข้ามไป ทำให้รถเสียศูนย์ก่อนพลิกคว่ำเกิดเป็นเหตุสยดสยอง

พระปลัดหุ่น สุวณฺณสโร

พระครูประสิทธิ์นวกรรม

พระครูธีรพัฒนาภรณ์ (อาจารย์เศียร)
อโนมคุโณ เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน

จะขอมาที่รถตู้กันหน่อย คณะกรรมการวัดที่นั่งอยู่ภายใน บางคนก็หลับ ส่วนบางคนก็เล่นโทรศัพท์ตามอัธยาศัย เมื่อรถปะทะเข้ากับเพลาเหล็กก็เกิดเสียง “ โครม ” สนั่นหวั่นไหว “ ส่วนแรงปะทะทำให้คนในรถกระเด็นกระดอนไปมา แต่กลับไม่มีใครได้รับบาดเจ็บสักคน เป็นอย่างมากก็แค่ฟกช้ำดำเขียว ซึ่งถ้าหากเป็นรถคันอื่นก็คงต้องเปลี่ยนจากงานบุญกลายเป็นงานสีดำไปแล้ว ” ( งานศพ )

เมื่อคนขับทำการสำรวจส่วนที่เกิดความเสียหาย ก็พบว่า “ หน้ารถยุบเข้าไปเป็นศอกๆ ดุ้งเข้าไปเกือบจะถึงครึ่งคัน ” ( โทรเรียกประกันมาลากไปซ่อม ซึ่งใช้เวลาซ่อมนานร่วมปีกว่าจะเสร็จ คิดดูเอาว่าจะหนักขนาดไหน )

กลับมาที่ วัดนวลจันทร์ กันบ้าง “ เมื่อเวลา ๒๒.๐๐ น.กว่าๆ รูปของหลวงปู่หุ่นได้ตกลงพื้น ทั้งๆ ที่เอาเชือกรัดไว้อย่างดี และทั้งๆ ที่ในโบสถ์ก็ไม่มีหมาไม่มีแมววิ่งชนหรือกระโดดโดนรูปแต่อย่างใด ” ส่วนผลที่เกิดจากรูปหลวงปู่ตก ก็ทำให้กระจกแตกกระจายกลาดเกลื่อนพื้น ทั้งพระทั้งฆราวาสที่มาช่วยงานกันอยู่ในโบสถ์ต่างก็ถึงกับตกตะลึงใบหน้าซีดเผือดคิดว่า “ ต้องเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นแน่ แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นเรื่องอะไร มารู้คำตอบก็สักประมาณ ๑๐-๑๕ นาทีต่อมา เมื่อกรรมการวัดคนที่เดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ได้โทรศัพท์กลับมาบอกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทั้งยังขอให้นำรถตู้อีกคันไปรับแล้วพาไปส่งที่เชียงใหม่เพื่อทำการถวายผ้าป่าให้เสร็จๆ ไปจะได้ไม่ค้างคา ทางวัดถามว่าเกิดเหตุเวลาเท่าไหร่ ก็ได้ความว่าเป็นเวลาเดียวกันกับที่รูปหลวงปู่ตกจากธรรมาสน์ ” เรื่องก็เป็นเช่นนี้แล...

อนึ่ง สำหรับรถของวัดทุกคัน ท่านพระครูธีรพัฒนาภรณ์ (ประเศียร) อโนมคุโณ หรือท่าน พระอาจารย์เศียร เจ้าอาวาส วัดบางขวด จะนำเหรียญ หลวงปู่หุ่น ห้อยไว้ เพื่อขอบารมีท่านปกปักรักษาคนที่อยู่ในรถให้เดินทางปลอดภัยจากอันตรายทั้งหมดทั้งมวล และนี่คือเหตุผลที่ว่า ทำไมคณะผ้าป่าที่ไปจังหวัดเชียงใหม่จึงปลอดภัยกันทุกคน

ล็อกเกตหลวงปู่หุ่น พ.ศ.2555

รูปถ่ายหลวงปู่หุ่น ฝังตะกรุดใต้น้ำ
(ทันหลวงปู่หุ่น)

เหรียญหลวงปู่หุ่น รุ่น 2 ปี 2524
เนื้อทองแดง (ออกวัดสุทัศน์)

หลวงปู่หุ่น ลงจากฟ้ามาหาหลวงพ่อบุญ

“ หลวงพ่อบุญ แห่งสำนักสงฆ์ไทรย้อย ” อำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ท่านเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ คนในพื้นที่ว่า “ ท่านมีวิชาอาคมขลัง แต่ท่านว่าไม่ใช่ ” ท่านได้มาบ้านญาติโยมที่อยู่ติดๆ กับ วัดบางขวด ( วัดนวลจันทร์ ) เมื่อท่านเสร็จกิจก็ได้เดินขึ้นไปกราบพระประธานในโบสถ์โดยมี พระอาจารย์เศียร เจ้าอาวาส วัดบางขวด ติดตามไปด้วย

ภายในวิหารวัดนวลจันทร์

เมื่อท่านไหว้พระประธานเสร็จก็เดินกลับลงมา ขณะอยู่ที่บันไดขั้นสุดท้ายท่านได้หยุดเดินเอาดื้อๆ ทั้งยังหลับตาเหมือนกำลังเข้าสมาธิ นั่นได้สร้างความประหลาดใจให้กับพระอาจารย์เศียรเป็นอย่างมาก หลวงพ่อบุญหยุดยืนอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นได้หันมาบอกกับพระอาจารย์เศียรที่ยืนอยู่ข้างหลังทางขวาว่า “ ท่านนี่ดีนะ ครูบาอาจารย์ยังคอยช่วยเหลือวัดอยู่ ” หลวงพ่อบุญพูดต่อว่า “ เมื่อครู่ท่านปรมาจารย์ได้ลงจากฟ้ามาหาฉัน ” พระอาจารย์เศียรถึงกับนิ่งอึ้งขนลุกซู่ๆ ในใจปลื้มปีติยินดีเป็นอย่างยิ่ง แต่ไม่ได้กล่าวอะไรออกไป จากนั้นก็ได้เดินไปส่งหลวงพ่อบุญขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับสำนักสงฆ์ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

วิหาร วัดนวลจันทร์ (บางขวด)

พระอาจารย์เศียร ลองพิจารณาใคร่ครวญเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมา นับตั้งแต่เมื่อครั้งที่ท่านเป็นเจ้าอาวาสใหม่ๆ จนถึงปัจจุบัน ก็พบว่า “ การน้อยใหญ่ ทั้งการสร้าง การบูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะภายในวัด ทั้งพิธีพุทธาภิเษกเล็กและใหญ่ ทั้งการบวชพระภิกษุสงฆ์ ทั้งการแจกทุนนักเรียน และอื่นๆ อีกมากมายที่ต้องใช้ทุนทรัพย์เป็นจำนวนมาก หากลองได้ทำแล้วล่ะก็ ก็จะสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ทั้งๆ ที่ท่านเจ้าอาวาสรูปก่อนก็ไม่ได้ทิ้งเงินเอาไว้ให้ ” มาถึงตรงนี้ท่านเจ้าอาวาสวัดบางขวดก็ถึงบางอ้อ

หลวงปู่หุ่น ถูกเจ้ามือหวยวางยาพิษ

พระอาจารย์ที่ใบ้หวยได้แม่นยำ เท่าที่ผู้เขียนเคยได้ยินได้ฟังมาก็มี หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก กับ หลวงปู่หุ่น วัดบางขวด โดยพระอาจารย์ทั้ง ๒ จะมีกลวิธีที่แตกต่างกันออกไป เช่น หลวงพ่อจง ท่านจะใช้ให้ลูกศิษย์ไปนับข้าวของ โดยตัวเลขที่นับได้ก็คือเลขหวยนั่นเอง ส่วน หลวงปู่หุ่น ท่านจะหมุนเข็มนาฬิกาไปตามตัวเลขต่างๆ ( ไปข้างหน้าก็ซื้อได้เลยตรงๆ แต่ถ้าหมุนกลับด้านหรือหมุนทวนเข็มก็แสดงว่าเลขนั้นจะต้องกลับ ) แต่พระอาจารย์ทั้ง ๒ ไม่เคยเอ่ยปากบอกเองแบบตรงๆ ท่านจะให้ไปตีความกันเอาเอง ( แล้วแต่บุญแต่วาสนาของแต่ละคน )

อุโบสถหลังใหม่ วัดนวลจันทร์
(บางขวด) เขตบึงกุ่ม กทม.

หลวงพ่อจง ท่านขึ้นชื่อลือชามาก มีลูกศิษย์ลูกหาของท่านหลายคนถูกหวยกันเป็นแสนๆ ก็พอดีว่ามีชาวบ้านแถววัดคนหนึ่งจำต้องใช้เงินอย่างเร่งด่วน เพราะหากไม่ได้ก็จะเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส แกจึงมาขอเลขกับหลวงพ่อเพราะได้ยินกิตติศัพท์ของท่านมาเยอะ ท่านว่า “ คนที่ถูกหวยเมื่อชาติที่แล้วเขาทำบุญมาเยอะ วาสนาเขาถึงแล้วจึงถูก แต่เจ้ามันไม่มีวาสนาทางนี้ต้องทำมาหากินจึงจะมีเงินกับเขา แต่ครั้งนี้ข้าจะช่วย ” ว่าแล้วท่านก็เขียนเลขใส่กระดาษแล้วส่งให้ ท่านว่า “ ซื้อได้ไม่เกิน ๒๐ บาทนะ หากมากกว่านั้นมันจะเกินวาสนาตัวแล้วจะไม่ถูก ” วันต่อมาชาวบ้านคนนั้นก็ถูกหวยจริงๆ

แหวนหลวงปู่หุ่น ปี 2511 เนื้ออัลปาก้า (ไม่ทันหลวงปู่หุ่น)

ส่วน หลวงปู่หุ่น ชื่อเสียงเรื่องใบ้หวยของท่านก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าหลวงพ่อจง “ หลวงปู่หุ่น ท่านให้หวยแม่น ถึงขนาดเจ้ามือหวยจ้างวานชาวบ้านให้เอาอาหารใส่ยาพิษมาถวาย ” ( คนใส่ยาเป็นเจ้ามือหวย ส่วนชาวบ้านนั้นไม่รู้เรื่อง เขาฝากมาถวายก็ถวายให้ )

พอประเคนอาหารให้ท่านเสร็จ อาหารที่ถวายก็เดือดปุดๆ ส่งกลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้ง พระ-เณรที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็ถึงกับตกใจ ส่วนชาวบ้านที่เป็นตัวแทนของเจ้ามือหวยก็ถึงกับตกตะลึงใบหน้าซีดเผือด หลวงปู่ท่านหัวเราะหึหึ แล้วพูดกับชาวบ้านคนที่นำอาหารมีพิษมาถวายให้กลับไปบอกเจ้าของอาหารว่า “ รับมาแล้วนะ เดี๋ยวข้าจะหาของไปให้บ้าง ”
และนับจากนั้นเป็นต้นมาเจ้ามือหวยก็ย้ายบ้านออกไปไม่กลับมาเหยียบถิ่นนี้อีกเลย เรื่องก็เป็นเช่นนี้แล

รูปหล่อบูชาหลวงปู่หุ่น วัดนวลจันทร์
(บางขวด) พ.ศ.2512

“ หลวงปู่หุ่น ท่านมีคุณูปการต่อชาวบ้านย่านบางกะปิ ต่อ วัดบางขวด ( วัดนวลจันทร์ ) และต่อวงการพระศาสนาอย่างอเนกอนันต์ อาทิ ท่านบูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะภายใน วัดบางขวด จากที่โล่งๆ ดูเหมือนร้างๆ จนเจริญรุ่งเรืองยิ่งใหญ่สมศักดิ์ศรีแห่งท่านที่เป็นพระเกจิอาจารย์ผู้มีอาคมขลังแห่งยุค ทั้งท่านยังอุปถัมภ์วัดวาอารามต่างๆ ที่มาขอให้ท่านช่วยสร้าง ท่านก็สร้างให้หมดไม่มีเกี่ยง

รูปหล่อบูชาหลวงปู่หุ่น วัดนวลจันทร์
(บางขวด) พ.ศ.2555

หลวงปู่หุ่น ท่านยังมีความเพียรในการเผยแผ่พระศาสนาของ “ องค์พระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ” อย่างเอกอุไม่มีย่อท้อ แม้นว่าญาติโยมบางคนจะเป็นบัวใต้น้ำก็ตามที ท่านได้ขัดเกลาจิตใจชาวบ้านให้มีความละอายต่อบาป สอนให้มีศีลธรรมประจำใจใช้เป็นธงชัยในการประกอบสัมมาอาชีพด้วยความซื่อสัตย์สุจริตจนเจริญรุ่งเรือง

ทั้งท่านยังอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมของไทยมิให้สิ้นสูญ โดยการตั้ง “ วงดนตรีไทย วัดบางขวด ” ขึ้นมา ส่วนวัตถุประสงค์ก็อย่างที่กล่าวไปแล้วตั้งแต่ต้นคือ เพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมไทย และก็เพื่อให้ลูกหลานและชาวบ้านในย่านคุ้งน้ำคลองบางขวดได้มีอาชีพเลี้ยงตัว “ ปัจจุบันคณะดนตรีไทยของหลวงปู่ก็ยังคงอยู่ ” เรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงความกตัญญูรู้คุณที่มีต่อบรมครูแห่ง วัดบางขวด ของอดีตเจ้าอาวาสรูปที่ต่อมาจากท่านจนถึง “ พระครูธีรพัฒนาภรณ์ ( อาจารย์เศียร ) อโนมคุโณ ” เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน ที่สานต่อปณิธานของ หลวงปู่หุ่น

ผ้ายันต์หลวงปู่หุ่นแบบต่างๆ

ส่วนชาวบ้านที่เจ็บป่วยไม่ว่าจะหนักขนาดไหนก็ไม่พ้นมือท่าน หากใครเดือดเนื้อร้อนใจเป็นไข้ไม่สบายทั้งแบบธรรมดาๆ และแบบไม่ธรรมดา เช่น เป็นโรคเวรโรคกรรมหากไม่เยียวยารักษาให้ก็จะตายกลายเป็นผี หรือโดนของโดนคุณไสยเสนียดจัญไร หรือโดนพวกอาถรรพณ์ต่างๆ ทั้งหลายเข้าตัว อีกทั้งยังพวกเสน่ห์ยาแฝดยาสั่งทั้งหลาย คือแบบว่าเอาไปรักษาที่ไหนไม่หายแล้วพามาหาท่าน สำหรับคนที่ยังไม่ถึงฆาตก็ไม่เกินมือ ท่านจะรักษาให้จนหายกลายเป็นปกติไม่กลับมาเป็นอีก ”

และเมื่อวันที่ ๒๘ มีนาคม พ.ศ.๒๕๑๐ หลวงปู่หุ่น ก็ได้มรณะดับขันธ์ลงอย่างสงบด้วยโรคชรา ( เนื่องจากท่านตรากตรำงานหนักสุขภาพท่านจึงทรุดโทรม ) ณ วัดบางขวด สิริอายุ ๗๕ ปี พรรษาที่ ๕๓ และเหตุแห่งความวิปโยคโศกเศร้าในครั้งกระนั้นได้สร้างความโศกาอาดูรอย่างหาที่สุดมิได้มายังบรรดาลูกศิษย์ลูกหาและผู้คนทั่วทั้งย่านบางกะปิ

การจากไปของ หลวงปู่หุ่น นั้น มิใช่เป็นแค่การสูญเสียพระอริยสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ผู้เป็นเนื้อนาบุญแห่งท้องทุ่งบางกะปิเท่านั้น หากแต่ยังเป็นการสิ้นสูญพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงเวทวิทยาคมที่เก่งเป็นอันดับต้นๆ ของยุคกรุงรัตนโกสินทร์ และเก่งไม่เป็นสองรองใครในยุคกึ่งพุทธกาล

( ที่มา : ลานโพธิ์ ฉบับที่ 1224 หลวงปู่หุ่น วัดบางขวด ( วัดนวลจันทร์ ) เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2561 ราคาปก 70 บาท )