![]() |
รูปถ่ายเอกลักษณ์คู่ตาลปัตรหัวเสือ หลวงพ่อเสือ วัดสามกอ รูปนี้ถือได้ว่าเป็น เอกลักษณ์ของท่านที่ไม่มีใครเหมือน คือมีตาลปัตรรูปหัวเสือวางไว้ด้านข้าง จัดว่าเป็นเกจิอาจารย์หนึ่งเดียว ที่มีเอกลักษณ์แบบนี้ |
![]() |
เหรียญหลวงพ่อเสือ วัดสามกอ รุ่นแรก นิยม เนื้อทองแดงกะไหล่ทอง |
วัดสามกอ ตั้งอยู่เลขที่ 72 บ้านสามกอ หมู่ที่ 2 ตำบลสิบเอ็ดศอก เมื่อปีพุทธศักราช 2450 โดย
นายอยู่ นางคล้อย โพธิ์สุวรรณ เป็นผู้มอบที่ดินถวายเพื่อสร้างวัดสามกอ เป็นจำนวนทั้งสิ้น 21
ไร่ กับอีก 40 ตารางวา นายจิ๋วและชาวบ้านสิบเอ็ดศอกร่วมกันอุปถัมภ์สร้างวัดสามกอขึ้นมา
ปัจจุบันสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีลำดับเจ้าอาวาสดังต่อไปนี้
![]() |
เหรียญรูปไข่หลวงพ่อเสือ ปี 2493 สร้างโบสถ์วัดแก้วศิลาราม เนื้อทองแดงกะไหล่ทอง |
![]() |
เหรียญรูปไข่หลวงพ่อเสือ เนื้อทองแดงผิวไฟ พิมพ์หลวงพ่อเสือ บล็อกหน้าผากสามเส้น พ ศ มีจุด |
รูปที่ 1 หลวงพ่อเสือ วิรุฬหผล ปี พ.ศ.2460-2498
รูปที่ 2 หลวงพ่อเผย สีลสาโร ปี พ.ศ.2499-2506
รูปที่ 3 พระครูสัมปัน (ชม) ปี พ.ศ.2507-2534
รูปปัจุบัน พระครูประทีบธรรมาทร (ธนินทร์) ปี 2535-ปัจจุบัน
อาณาเขตวัด ทิศเหนือติดโรงเรียน วัดสามกอ ทิศใต้ติดถนนดอนสีนนท์-แหลมประดู่ (เส้น 33)
ทิศตะวันออกติดศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สามกอ ทิศตะวันตกติดคลอง สามกอ และชุมชนข้าง วัดสามกอ
![]() |
พระประธานภายในโบสถ์ วัดสามกอ |
เมื่อปี พ.ศ.2512 ศาลาการเปรียญ เป็นอาคารไม้หลังคาทรงสูง เสาไม้ทุกต้น สร้างเมื่อปี 2507
มีหมู่กุฏิสงฆ์ใต้ถุนสูงเป็นไม้ 1 หลัง อยู่ด้านหลังวิหารห้อง พ่อเสือ หลังหนึ่งมี 3 ห้อง และ หมู่กุฏิ
สงฆ์ใต้ถุนสูงเป็นอาคารคอนกรีต หลังคาทรงไทย 2 หลัง หลังหนึ่งมี 4 ห้อง อยู่ด้านทิศใต้ และ วิหาร หลวงพ่อเสือ เป็นวิหารหลังคาทรงจัตุรมุข สร้างเสร็จปี 2535
หลวงพ่อเสือ วิรุฬหผล ท่านมีนามเดิมว่า เสือ นามสกุล ยิ้มอยู่ ชาติภูมิ ท่านเกิดวันที่ ๒๒ มิถุนายน พ.ศ.2421 ที่หมู่บ้านในเขตตำบลสระสี่เหลี่ยม อยู่ไม่ไกลจากวัดหลวงพรหมาวาส อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี โยมบิดาชื่อ แสวง โยมมารดาชื่อ ลำเจียก ท่านเป็นลูกคนที่ 2 ในจำนวนพี่น้อง 5 คน ดังนี้ คนที่ 1. นางเสน แซ่ล้อ 2. หลวงพ่อเสือ ยิ้มอยู่ 3. นางเล็ก ยิ้มอยู่ 4. นายสอ ยิ้มอยู่ 5. นางโต ยิ้มอยู่
![]() |
ภายในวิหารหลวงพ่อเสือ วัดสามกอ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา |
![]() |
วิหารหลวงพ่อเสือ วัดสามกอ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา |
![]() |
โบสถ์ วัดสามกอ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา |
![]() |
ด้านหน้าโบสถ์ วัดสามกอ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา |
![]() |
เหรียญหลวงพ่อเสือ ใบโพธิ์ใหญ่ ปี 2495 บล็อกเรียบ |
![]() |
เหรียญหลวงพ่อเสือ ใบโพธิ์ใหญ่ ปี 2495 บล็อกเรียบ |
![]() |
เหรียญหลวงพ่อเสือ พิมพ์ใบโพธิ์เล็ก บล็อกนิยม นางกวักผมยาวฐานตะแกรง เนื้อทองแดงกะไหล่ทอง |
![]() |
ภาพงานแซยิดหลวงพ่อเสือ วัดสามกอ ในภาพจะเห็นมีถังน้ำมนต์ขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่าท่านเก่งทางน้ำมนต์มาก และที่สำคัญพระเถราจารย์องค์ซ้ายมือ ที่มาร่วมงานในงานแซยิด คือ หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก |
ต่อมา หลวงพ่อเสือ ได้ธุดงค์ไปสกลนคร เพื่อไปฝึกกรรมฐานเพิ่มเติมกับพระสายป่า แต่ไม่แน่ชัดว่าท่านได้ศึกษากับพระสุปฏิปันโนท่านใด พระอาจารย์ที่นั่นได้แนะนำให้เดินทางไปพม่า ซึ่งเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยศรัทธาในพระพุทธศาสนาและแหล่งสักการะศักดิ์สิทธิ์มากมาย อีกทั้งคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนา ท่านจึงเริ่มออกเดินทางผ่านอุดรธานีไปจน ถึงพม่า อาศัยพักอยู่ที่ วัดโชติการาม โดยมี พระอาจารย์โชติกะธรรมจริยะ คอยแนะนำและให้ความสะดวก พักอยู่ 6 เดือน หลังจากนั้นท่าน หลวงพ่อเสือ ได้เดินทางไป วัดซันคยองวิหาร ได้พำนักจำพรรษาอยู่ที่นี่ถึง 2 ปี ณ ที่นี่หลวงพ่อได้พบกับ ท่านเลดี สย่าดอ มหาเถระ ปราชญ์ทางพระพุทธศาสนาของพม่า ซึ่งเป็นผู้คอยแนะแนวทางการปฏิบัติธรรม การศึกษาพระไตรปิฎกให้
หลังจากนั้นหลวงพ่อยังได้เดินทางไปที่ลังกาได้พบและศึกษากับ ท่านญาณโปนิก มหาเถระ กลับจากลังกาแล้ว หลวงพ่อเสือ จึงเดินทางกลับมาบ้านเกิดที่ชลบุรี โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะมาช่วยเหลือชาวบ้าน ทั้งการให้ธรรมะและช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ซึ่งขณะนั้นท่านอายุได้ประมาณ 40 ปี มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในแถบจังหวัดชลบุรี และจังหวัดฉะเชิงเทรา
![]() |
พระผงรุ่นอินโดจีน พิมพ์สมเด็จทรงสิงห์ |
![]() |
พระผงรุ่นอินโดจีน พิมพ์สมเด็จทรงครุฑ สภาพสวยคมชัดผิวเดิม |
มีเรื่องเล่าต่อๆ กันมาจากผู้เฒ่าผู้แก่ว่า หลวงพ่อเสือ ท่านไม่เคยสรงน้ำเลย ไม่เคยมีใครเคยเห็นท่านเดินไปสรงน้ำที่คลองเลย แต่ทุกวันเวลาท่านอยู่ในห้องที่ท่านใช้จำวัดพักผ่อน ผู้ที่อยู่ใกล้เคียงจะได้ยินเสียงน้ำเหมือนไหลจากฝักบัว และร่างกายของหลวงพ่อก็เปียกเอง ทั้งยังมีกลิ่นหอมเหมือนดอกลำเจียก
เมื่อถึงวันเกิดของท่าน ผู้คนจะหลั่งไหลมาสรงน้ำท่าน เวลาท่านเดินลงจากกุฏิฝนจะตกลงมาพอดีทุกครั้ง ท่านจึงได้ฉายาว่า “ พระวิรุฬหผล ” เมื่อตอนอายุได้ 55 ปี ท่านได้ธุดงค์ไปประเทศศรีลังกา เพื่อศึกษาพระพุทธศาสนาในรายละเอียดเพิ่มเติมให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
หลังจากท่านกลับจากธุดงค์จากศรีลังกาแล้วท่านก็ไม่ธุดงค์ไปต่างประเทศอีก แต่ท่านถือธุดงควัตรเป็นนิจ ท่านยังคงธุดงค์หลังออกจากพรรษาอยู่เป็นนิจ หลวงพ่อเสือ ท่านเคยร่วมคณะธุดงค์ไปกับ หลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน ในช่วงที่หลวงพ่อเสือยังเป็นพระหนุ่มอายุไม่เกิน 30 ปี ซึ่งในขณะนั้นหลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน ก็สูงอายุมากแล้ว ทำ ให้ หลวงพ่อเสือ มีความสนิทสนมกับ หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา ที่ได้พบกันในคณะธุดงควัตร แม้ช่วงหลังจากหลวงพ่อปานมรณภาพแล้ว หลวงพ่อเสือ ก็ยังได้ร่วมธุดงค์ไปกับคณะของหลวงพ่อเหลือและหลวงพ่อจาดอีกหลายครั้ง
![]() |
พระลีลาข้างเม็ด หลังจารยันต์ 4 ตัว หลวงพ่อเสือ วัดสามกอ สร้างเนื้อชิน |
![]() |
พระบูชาหลวงพ่อเสือ วัดสามกอ เนื้อทองเหลืองรมดำ ปี 2529 สร้างหลังจากหลวงพ่อมรณภาพไป 30 ปี |
เมื่อคราว หลวงพ่อเสือ ท่านดำริที่จะสร้างโรงเรียนประชาบาลขึ้น เมื่อปี 2496 เพราะท่านเล็งเห็นความสำคัญของการศึกษาของลูกหลานชาวสามกอและใกล้เคียง ท่านไม่ต้องออกไปบอกบุญนอกวัดเลย อาศัยแค่ญาติโยมที่มาหาท่านที่วัดเนืองแน่นแทบทุกวัน ก็สามารถก่อสร้างโรงเรียนได้ แต่น่าเสีย ดายที่ท่านมาสิ้นบุญมรณภาพเสียก่อนพิธีเปิดโรงเรียน ด้วยเหตุที่ท่านเป็นปฐมคิดผู้ริเริ่มรวมทุนก่อสร้างโรงเรียนนี้จึงมีชื่อว่า โรงเรียน วัดสามกอ วิรุฬห์ราษฎร์อุปถัมภ์ ก่อนมรณ ภาพหลวงพ่อรู้ล่วงหน้า ท่านจึงได้เตรียมตัวพร้อม โดยเรียกลูกศิษย์มาถ่ายรูปของท่านไว้ ให้ทำความสะอาดศาลา และเรียกมาประชุมฟังธรรม
![]() |
พระปิดตาเนื้อดินเผา พิมพ์จันทร์ลอย หรือคนท้องที่ละแวกบ้านโพธิ์นิยมเรียก พระปิดตาขนมเปี๊ยะ |
![]() |
พระปิดตาเนื้อดินเผา พิมพ์จันทร์ลอย หรือคนท้องที่ละแวกบ้านโพธิ์นิยมเรียก พระปิดตาขนมเปี๊ยะ |
“คนเราถ้าถึงเวลาตายแล้ว ถึงจะปล่อยให้ผมยาวเพียงไหน ชีวิตก็ยาวต่อไปไม่ได้”
ก่อนมรณภาพ 4 วัน หลวงพ่อได้สั่งว่า ท่านจะทำสมาธิเจริญวิปัสสนาอยู่ในห้อง 4 วัน ห้ามไม่ให้ใครมารบกวน ครั้นครบ 4 วันตามที่ท่านสั่งแล้ว ลูกศิษย์ ( คือ หลวงตาเผย ) ได้เคาะประตูห้อง เมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบลูกศิษย์จึงเข้าไปดู พบว่าหลวงพ่อครองผ้าไตรจีวรครบถ้วน เหมือนเวลาที่มีพิธีกรรมทางศาสนา มีตาลปัตรตั้งไว้ด้านขวา มีข้อความเขียนไว้ที่ผ้าสังฆาฏิว่า “เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา” ท่านนอนตะแคงขวาเหมือนหลับ สีหน้าสงบปราศจากความเศร้าหมอง ทุกคนก็ทราบทันทีว่า ท่านได้มรณภาพแล้ว
วันนั้นตรงกับ วันศุกร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ.2498 รวมสิริอายุ 77 พรรษา และในขณะนั้นได้เกิดเสียงฟ้าร้องคะนอง อากาศมืดครึ้ม ฝนตกเทลงมาประมาณ 15 นาที ฝนก็หยุดตก เหมือนฟ้าอาลัยจากการจากไปของ ฺณ พระเกจิขลังเพชรแท้แห่งลุ่มน้ำบางปะกง ผู้เปี่ยมด้วยเมตตาที่เป็นที่พึ่งของญาติโยม ทั้งผู้ดีมีเงินและผู้ตกทุกข์ได้ยากไปอีกรูป
อภินิหาร หลวงพ่อเสือ วัดสามกอ
เกร็ดประวัติที่ได้จากการสัมภาษณ์ผู้สูงอายุที่อยู่ในยุคที่ทัน หลวงพ่อเสือ วิรุฬหผล ยังมีชีวิตอยู่คุณยายซ้อย อู๋อ่อน ปัจจุบันอายุ 98 ปี ซึ่งมีบ้านพักอาศัยอยู่ในเขตวัดสามกอ ตั้งแต่วัยสาวจนถึงปัจจุบัน คุณยายมีบ้านปลูกอยู่หลังวิหารที่ประดิษฐานรูปหล่อเท่าองค์จริง หลวงพ่อเสือ คุณยายยังมีความทรงจำดีไม่หลงไม่ลืม ในอดีตคุณยายมีอาชีพเป็นแม่ค้าขายกล้วยทอดและถั่วต้มอยู่หน้าวัด ได้เล่าให้ผู้เขียนและคุณสุทัศน์ฟังว่า กุฏิที่ หลวงพ่อเสือ ท่านอยู่นั้นเป็นอาคารใหญ่มี 2 ชั้น หลวงพ่อเสือ ท่านอยู่ชั้นบน ส่วนชั้นล่างพระสรวง หรือหลวงน้าสรวง ซึ่งเป็นพระหลานชายของหลวงพ่อพักอาศัยอยู่ หลวงน้าสรวงจะเป็นผู้ตระเตรียมยาหม้อที่ผ่านการปลุกเสกแล้วให้กับญาติโยมที่มาให้ หลวงพ่อเสือ ท่านรักษา ในอดีตไม่มีรถยนต์แบบทุกวันนี้ การเดินทางก็ลำบาก แต่มีผู้คนมาหา หลวงพ่อเสือ ที่กุฏิท่านแน่นกุฏิทุกๆ วัน อันนี้เห็นทีจะจริง เพราะคุณพ่อของผู้เขียน พ่อจำเรียง ประชุมพันธุ์ ปัจจุบันอายุ 82 ปี ยังมีความทรงจำที่ดีได้เล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่า แม้แต่คุณปู่ของตัวผู้เขียนเองซึ่งเป็นกำนันอยู่ตำบลคลองอุดมชลจร (คลองเดโช) กำนันโลม ประชุมพันธุ์ บ้านอยู่หมู่ 8 คลองเดโช เขตติดต่อคลองประเวศบุรีรมย์ ซึ่งระยะทางห่างจาก วัดสามกอ ถึง 40 กว่ากิโล ยังดั้นด้นมาหา หลวงพ่อเสือ ที่ วัดสามกอ โดยเดินทางมาทางเรือ โดยมากับคุณพ่อของผู้เขียนมาตามคลองเดโช แล้วออกทางคลองประเวศบุรีรมย์ออกประตูน้ำ ท่าถั่ว ออกมาทางแม่น้ำบางปะกง ญาติโยมที่มาหาท่าน หลวงพ่อเสือ
![]() |
รูปถ่ายหลวงพ่อเสือ วัดสามกอ รูปนี้หาชมยากมาก หลวงพ่อสวมแว่น ห่มจีวรแบบห่มคลุม ประสานมือ แบบทำสมาธิ ช่างภาพยุคเก่า ใช้เทคนิคใส่ภาพเสือลงไปในรูป |
![]() |
รูปถ่ายครึ่งองค์ หลวงพ่อเสือ วัดสามกอ หลังจารพุทโธ ขนาดแขวนติดตัว |
![]() |
ปลาตะเพียน จารอักขระยันต์ เนื้อชินตะกั่ว หลวงพ่อเสือ วัดสามกอ |
![]() |
กฤชนณ ประชุมพันธ์ (ผู้เขียน) กับ คุณสุทัศน์ ฮกเทียน สัมภาษณ์ข้อมูลประวัติหลวงพ่อเสือ จากคุณตาหยิว เกิดทรวงดี อายุ 78 ปี |
![]() |
กฤชนณ ประชุมพันธ์ (ผู้เขียน) กับ คุณสุทัศน์ ฮกเทียน สัมภาษณ์ข้อมูลประวัติหลวงพ่อเสือ จากท่านอาจารย์นวพันธ์ ทองอ่วม อายุ 80 ปี (ขณะนี้เสียชีวิตแล้ว) |
เกร็ดประวัติ หลวงพ่อเสือ วัดสามกอ จากการบอกเล่าของ อาจารย์สมชาย ศรีสุรักษ์ อดีตข้าราชการบำนาญ ปัจจุบันอายุ 79 ปี ผู้ซึ่งเป็นศิษย์รับใช้ใกล้ชิด หลวงพ่อเสือ วัดสามกอ ในขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ในช่วงปีประมาณปี พ.ศ.2480 ถึง 2498 ซึ่งในขณะนั้นอาจารย์สมชาย ศรีสุรักษ์ ได้เป็นเด็กวัดพักอาศัยอยู่ที่วัดสามกอ ในช่วงประมาณปี 2490 ถึง 2498
เรื่องที่นำมาบอกเล่าในที่นี้บางเรื่อง อาจารย์สมชาย ศรีสุรักษ์ ได้รับฟังมาจากผู้อื่น ซึ่
งท่านผู้นั้นได้คุ้นเคยกับหลวงพ่อ ได้นำมาบอกเล่าให้อาจารย์สมชายทราบ และก็มีหลายเรื่องที่อาจารย์สมชายได้รับฟังจาก หลวงพ่อเสือ เองคือ วันที่หลวงพ่อไม่มีกิจนิมนต์ที่ไหน ท่านจะมีญาติโยมมาหาหลวงพ่อที่ วัดสามกอ อย่างเนืองแน่นทุกวัน เพื่อให้ท่านช่วยรักษาอาการโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ซึ่ง หลวงพ่อเสือ มีชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือมากก็คือ น้ำมนต์เดือด คือหลวงพ่อจะใช้การรักษาคนป่วยด้วยยาแผนโบราณหรือยาหม้อ และใช้น้ำมนต์เป็นหลัก ซึ่งน้ำมนต์เป็นน้ำมนต์ที่ผ่านการบูชาพระรัตนตรัยและปลุกเสกด้วยวิทยาคมของท่านจนเดือดปุดๆ ขึ้นมา ท่านจึงให้ญาติโยมนำกลับไปดื่มกินที่บ้านหรือนำไปอาบ แม้แต่คนบ้าวิกลจริต ตอนมาหาท่านจับมัดมือกันมาพูดจาไม่รู้เรื่อง พอมาให้ท่านรักษาอยู่ที่วัด 3 วัน 7 วัน ก็หายเป็นปกติ โดยการรักษาวันแรกท่านให้ผูกโซ่ไว้ใต้ถุนกุฏิท่าน ท่านให้กินยาหม้อและดื่มน้ำมนต์ พอวันที่ 3 ท่านให้ปลดโซ่ออก ตกค่ำท่านให้ขึ้นไปบนกุฏิท่าน ฟังท่านสวดมนต์ทำวัตร ท่านเทศน์ให้โอวาท วันที่ 4-7 ดื่มน้ำมนต์และยาหม้อ วันที่ 7 ท่านให้สวดมนต์บูชาพระรัตนตรัย บทสวดง่ายๆ ตามท่านได้ จากนั้นให้เขากลับบ้าน คนผู้นั้นก็หายเป็นปกติ น่าเสียดายที่ไม่มีการจดบันทึกชื่อ-สกุลของท่านผู้นั้นไว้ เป็นเพียงคำบอกเล่าต่อๆ กันมา แต่มีผู้เฒ่าผู้แก่ที่สูงอายุยืนยันเรื่องราวนี้หลายท่านว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง คนป่วยวิกลจริตที่หลวงพ่อรักษาจนหายผู้นั้นเขากลับไปประกอบอาชีพจนตั้งหลักปักฐานได้ ได้มาบูชาคุณหลวงพ่อ โดยการหล่อรูปเหมือนท่านให้ประชาชนได้กราบไหว้บูชา
ซึ่งปัจจุบัน รูปหล่อหลวงพ่อเสือ องค์นี้ยังประดิษฐานอยู่ในวิหาร วัดสามกอ คือองค์ที่ ฐานเป็นบัวคว่ำบัวหงาย อยู่ด้านในสุดนั่นเอง ส่วนองค์ที่อยู่ด้านหน้า ฐานเป็นลักษณะเป็นฐานเขียง นั้น หล่อเมื่อปี 2500 ดังปรากฏรอยสลัก วัน เดือน ปี ไว้ที่ฐานของรูปหล่อ
( ที่มา : ลานโพธิ์ ฉบับที่ 1217 หลวงพ่อเสือ วัดสามกอ ต.สิบเอ็ดศอก อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา เดือนธันวาคม พ.ศ. 2560 ราคาปก 70 บาท )