ในบรรดา พระกรุ เนื้อดิน ที่ได้รับความนิยมกันมาแต่อดีต โดยเฉพาะนักเลงโบราณก็ต้องยกให้ หลวงพ่อโต กรุบางกระทิง เล่ากันว่า กัน กระบอง ได้ชะงัดนัก ที่ว่ากัน กระบอง ได้ก็คือ มีความเหนียวคงกระพัน ขนาดโดนไม้กระบองฟาดหัวยังไม่แตก
เป็นพระเครื่องที่ผู้เขียนเคยนั่งสนทนากับ พล.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ที่วัดดอนศาลา โดยผู้เขียนถาม อาจารย์ขุนฯ ว่า พระเครื่องอะไรที่ท่านเคยพบเห็นว่ามีประสบการณ์ดีกับสายตามาบ้าง ท่านตอบว่า ต้องยกให้ หลวงพ่อโต กรุบางกระทิง ท่านเคยเห็นนักเลงสมัยก่อนไล่ฟันไล่แทงกันเสื้อผ้าขาดวิ่น แต่คมมีดไม่ระคายเคืองผิวหนัง ท่านว่า พระหลวงพ่อโต นั้นเหนียวมาก แต่ว่าเมื่อ แขวนแล้วมักจะใจร้อน ชอบไปมีเรื่องราวตีรันฟันแทงกันเสมอ คงจะเป็นเพราะว่าหลวงพ่อท่านอยากให้ลองของก็เป็นได้
ลานโพธิ์ ฉบับนี้ภาพปกหน้าเป็น หลวงพ่อโต กรุบางกระทิง พิมพ์มารวิชัย มาขึ้นเป็นปกให้ได้ชมกัน พระองค์นี้เป็นพระสภาพผ่านการใช้ ลงรักมาเก่า สภาพเนื้อจัด แม้ไม่สวยปิ๊ง แต่ก็มีเสน่ห์ ในวงการเรียกพระแบบนี้ว่า ดูง่าย นอกจากนั้นยังได้นำเรื่องราวของ หลวงพ่อโต ในเชิงวิเคราะห์มาให้อ่านกันด้วย หวังว่าท่านผู้อ่านคงได้รับความรู้ในบางแง่มุมเอาไว้พิจารณา
เศรษฐกิจยามนี้ ทุกอย่างแพงไปหมด ตั้งแต่ของกิน ของใช้ แม้กระทั่ง ไข่ จนถึงน้ำตาล น้ำปลา ล้วนขึ้นราคากันทั้งแผง กระทั่งไล่มาถึงน้ำมันเชื้อเพลิงแล้วก็ลามไปถึง กระดาษ และ วัสดุการพิมพ์ ทั้งระบบ เมื่อเป็นเช่นนี้ก็มีผลไปถึง ราคาค่าแรง ซึ่งต้องขึ้นไปตามดรรชนีค่าครองชีพ ทุกอย่างแพง แรงงานถูก แล้วคนจะไปอยู่ได้อย่างไร
ลานโพธิ์ ยืนระยะราคา 50 บาทมานาน 8 ปี กัดฟันหั่นค่าใช้จ่ายอื่นๆ ลง เพื่อไม่ให้ผลกระทบได้ถึงราคาจำหน่าย 50 บาท จนขณะนี้ เส้นป่าน สุดท้ายขาดลง เพราะตั้งแต่ กระดาษ ไปจนถึง หมึกพิมพ์ และ ค่าแรงงาน ขึ้นไปสูงมาก ทำให้ กัดฟัน ต่อไปไม่ไหว หลังสงกรานต์ไปแล้ว คือฉบับวันที่ 1 พฤษภาคม 2554 วันแรงงานแห่งชาติ ขออนุญาตเพิ่มราคาอีก 10 บาท เป็นเล่มละ 60 บาท เพื่อนำส่วนนี้ไปช่วยค่าวัสดุการพิมพ์ และค่าแรงเจ้าหน้าที่และพนักงานการพิมพ์ ให้ยืดลมหายใจรับใช้ท่านผู้อ่านต่อไป
ขอบพระคุณอย่างยิ่งครับ
( ที่มา : บทบรรณาธิการ ลานโพธิ์ ฉบับที่ 1068 พระหลวงพ่อโต บางกระทิง พิมพ์มารวิชัย ลงรัก กรุบางกระทิง อยุธยา วางแผง เดือนเมษายน 2554 โดย.. สุธน ศรีหิรัญ )