เรื่องโดย ทแกล้ว ภูกล้า
เมื่อตั้งตัวเป็นนักศึกษา วิทยายุทธ์พระเครื่อง ติดตามความคืบหน้าทั้งด้านวิชาการและตลาดพระเครื่อง ติดต่อกันมาเกือบจะสี่สิบปี ผมพบว่า ด้านตลาดพัฒนาไปไกลมาก ตรงข้ามกับด้านวิชาการ ซึ่งดูเหมือนย่ำเท้าอยู่กับที่
ตลาดพระ วิ่งฉิวปลิวไปตามยุคเศรษฐกิจฟองสบู่ ราคาพระเครื่องชนิดใหม่หลายชนิด ยังไม่ทันผลิต ก็ขายได้ล่วงหน้า
วัดดัง เกจิอาจารย์ดี ออกข่าวเตรียมจัดพิธีสร้างพระ ปลุกเสกพระ เท่านั้นแหละ ตลาดพระเครื่องก็ขวักไขว่
ยิ่งมีสื่อพระเครื่องช่วยทำหน้าที่ตีปี๊บอีกเปรี้ยงสองเปรี้ยง คนที่ไม่เคยสนใจก็หันไปถาม คนที่สนใจอยู่แล้ว ก็ไม่รอช้า ทำหน้าที่แรก รีบไปซื้อใบจอง
เวลาผ่านไป จนถึงวันรับพระ ก็จะเป็นอีกวันของความสับสนอลหม่าน พ่อค้าที่ตุนใบจองไว้มาก ก็ถือเป็นจังหวะขาย ยิ่งเมื่อมีคนสนใจอยากได้มาก ราคาก็แพงขึ้นไปตามหลักอุปสงค์ อุปทาน ของน้อยมีคนต้องการมาก แน่นอน…ราคาก็ต้องแพงกว่าราคาจอง
เรื่องอย่างนี้ ผมเคยมีประสบการณ์ด้วยตัวเอง ตั้งแต่เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว เพื่อนที่เป็นหัวหน้าข่าวเดินมาบอกว่า จองเหรียญทองคำ หลวงปู่แหวนไว้ เหลือโควต้าไว้หนึ่งเหรียญ
เหรียญทองคำ ยิ่งเป็นเหรียญหลวงพ่อดัง ใครจะไม่อยากได้ แต่เมื่อพยักหน้ารับไปแล้ว ก็เสียวหัวใจ เมื่อรู้ว่าราคาเหรียญแพงกว่าเงินเดือนตัวเองเกือบสองเท่า
คนเงินน้อย แต่กิเลสความอยากได้มาก นั่งไม่สบายใจอยู่จนถึงวันรับพระ เพื่อนคนที่จองพระก็บอกว่า ถ้าสละสิทธิ์ไม่เอาก็ได้ เขายินดีจ่ายให้แพงกว่าอีกเท่าตัว
เอาล่ะซี… จองพระไว้ราคา (สมัยนั้น) 3,500 บาท ตอนรับพระ มีคนให้ราคา 7,000 บาท นั่นเป็นบทเรียนแรก ที่ตื่นตาตื่นใจ กับช่องว่างที่ยิ่งใหญ่ สำหรับผู้ไขว่คว้าหาประโยชน์
และนั่นไม่เป็นเพียงบทเรียนของผม เป็นบทเรียนสำคัญของเพื่อนคนนั้นด้วย หลังจากแยกกันทำหนังสือพิมพ์คนละฉบับไม่นาน …วันนี้ผมมีเพื่อนเป็นเจ้าของสำนักพิมพ์พระเครื่อง ที่คุยได้สบายตามสไตล์ว่า มียอดขายอันดับหนึ่ง
แต่มีเสียงกระซิบว่า การไต่ระดับจากนักหนังสือพิมพ์ วิ่งไล่ล่าหาข่าวหาภาพธรรมดา เป็นนักธุรกิจสิ่งพิมพ์ร้อยล้าน ไม่ได้มาจากผลกำไรจากยอดขายหนังสือ แต่กำไรส่วนใหญ่ได้จากการขายพระ
เพื่อนคนนี้มีลูกเด็ดทีเดียว เขาขายได้ตั้งแต่ ภาพพระองค์ที่ขึ้นปก ตอกย้ำด้วยบทบรรณาธิการ พรรณนาสรรพคุณ และอนาคตด้านราคาของพระ แล้วก็ทิ้งท้ายได้หน้าตาเฉยว่า ถ้าสนใจติดต่อได้
ต่อจากหน้าบทบรรณาธิการ มีเรื่องราวของเกจิดัง หรือพระเครื่องชั้นดีอยู่ประมาณสามเรื่อง เกือบทุกเรื่องมี ป.ล. ทิ้งท้ายว่า สนใจติดต่อได้เต็มที่
และร้อยละแปดสิบ นอกจากนั้นเป็นหน้าโฆษณาขายพระ มีโฆษณาลดแลกแจกแถม ด้วยลีลาภาษายั่วใจ ไม่แตกต่างจากลีลาของพ่อค้าขายผงซักฟอก
สนใจติดตามซื้ออยู่พักใหญ่ เมื่อเห็นว่าไม่ได้สาระจากวิชาการพระเครื่องที่มุ่งหมาย ได้อ่านโฆษณาขายพระลูกเดียว ผมก็เลิกซื้อ
แต่ปฏิเสธไม่ได้เหมือนกันว่า การที่หนังสือพระ เกาะติดกับตลาด คลุกอยู่กับการซื้อขาย แม้อาจถูกดูแคลนว่า เป็นพุทธพาณิชย์ แต่หนังสือฉบับที่เกาะติดอยู่กับตลาดมักไม่พลาด ในการเสนอเนื้อหาที่เป็นพระแท้ พระจริง
ยกข้อตะขิดตะขวงใจ ว่าเนื้อหามีแต่พระใหม่แล้ว ก็ต้องยกนิ้วให้เขาเลยว่า เป็นผู้นำหนังสือพระเครื่องได้ฉบับหนึ่ง
ผ่านยุคที่หนังสือพระขายดี แถมมีโบนัสก้อนใหญ่จากกำไรขายพระ ในขณะที่สื่อสิ่งพิมพ์ทุกประเภท เจอภาวะวิกฤต ล้มหายตายจากไปทีละฉบับๆ ผมเดินดูแผงหนังสือทั้งในกรุงและบ้านนอกแล้วตกใจ เมื่อพบว่าหนังสือพระเครื่องยังยึดแผงขายไว้ได้เหนียวแน่น
เคยนับแผงหนังสือที่แม่กลอง อัมพวา พบว่ามีหนังสือพระเครื่องหน้าใหม่ออกมาเสริมฉบับที่หายหน้าไปแล้ว ถึง 24 ฉบับ ยังไม่รวมหนังสือพระเฉพาะกิจ ที่ยังดาหน้าออกมาเหมือนแมงเม่า ไม่กลัวกองไฟ อีกเดือนละหลายเล่ม
หนังสือพระเครื่องที่ยืนหยัดสู้กระแสเศรษฐกิจตกต่ำอยู่ได้ นอกจากหนังสือหัวเก่า ที่มีแฟนๆ ประจำอย่าง “ ลานโพธิ์ ” แล้ว หนังสือหน้าใหม่ที่ออกมาเห็นได้ชัดๆว่า เน้นการซื้อการขายอย่างเดียว
ที่เคยกระมิดกระเมี้ยน ตีพิมพ์ภาพพระ บอกเป็นนัยว่า ราคาน่าจะเท่านั้นเท่านี้ ตอนนี้เลิกเขินกันแล้วครับ เขียนกันอยู่บนปกเลยว่า จะขาย ราคาต่อรองได้ คุยกันได้
จากพระดัง พระดีมีอันดับที่เคยขึ้นปกองค์เดียว คราวนี้มีหลายองค์ บอกทั้งราคา บรรยายทั้งสรรพคุณ
หนังสือพระ ฉบับที่ไม่กล้า … ยังนำเสนอเนื้อหาพื้นฐานทางวิชาการในการดูพระแบบเก่าๆ ต่างหาก ที่อาการน่าเป็นห่วง
นี่แหละครับ เหตุผลที่ ลานโพธิ์ เปิดหน้า “ มาตรฐาน ลานโพธิ์ ” ตามยุคตามสมัย
แต่เนื้อหาด้านวิชาการ แม้ว่าเรารู้ดีว่าสู้ขายพระไม่ได้ เรายังเคยไว้เหมือนเดิม
ถึงจะเหนื่อย ก็ยังกัดฟันสู้ครับ ทำไงได้…ก็เพื่อสนองน้ำใจ เราๆ ท่านๆ นั่นแหละครับ.
( ที่มา : ลานโพธิ์ ฉบับที่ 759 ปักษ์หลัง เดือนพฤษภาคม 2541 : หลีกทางเซียน : มาตรฐาน ลานโพธิ์ โดย ทแกล้ว ภูกล้า )
ลิขสิทธิ์ 2010 ลานโพธิ์ - สำนักพิมพ์บางกอกสาส์น. สงวนไว้ซึ่งสิทธิทั้งหมด. Copyright Bangkoksarn Publishing 2010.
เมื่อตั้งตัวเป็นนักศึกษา วิทยายุทธ์พระเครื่อง ติดตามความคืบหน้าทั้งด้านวิชาการและตลาดพระเครื่อง ติดต่อกันมาเกือบจะสี่สิบปี ผมพบว่า ด้านตลาดพัฒนาไปไกลมาก ตรงข้ามกับด้านวิชาการ ซึ่งดูเหมือนย่ำเท้าอยู่กับที่
ตลาดพระ วิ่งฉิวปลิวไปตามยุคเศรษฐกิจฟองสบู่ ราคาพระเครื่องชนิดใหม่หลายชนิด ยังไม่ทันผลิต ก็ขายได้ล่วงหน้า
วัดดัง เกจิอาจารย์ดี ออกข่าวเตรียมจัดพิธีสร้างพระ ปลุกเสกพระ เท่านั้นแหละ ตลาดพระเครื่องก็ขวักไขว่
ยิ่งมีสื่อพระเครื่องช่วยทำหน้าที่ตีปี๊บอีกเปรี้ยงสองเปรี้ยง คนที่ไม่เคยสนใจก็หันไปถาม คนที่สนใจอยู่แล้ว ก็ไม่รอช้า ทำหน้าที่แรก รีบไปซื้อใบจอง
เวลาผ่านไป จนถึงวันรับพระ ก็จะเป็นอีกวันของความสับสนอลหม่าน พ่อค้าที่ตุนใบจองไว้มาก ก็ถือเป็นจังหวะขาย ยิ่งเมื่อมีคนสนใจอยากได้มาก ราคาก็แพงขึ้นไปตามหลักอุปสงค์ อุปทาน ของน้อยมีคนต้องการมาก แน่นอน…ราคาก็ต้องแพงกว่าราคาจอง
เรื่องอย่างนี้ ผมเคยมีประสบการณ์ด้วยตัวเอง ตั้งแต่เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว เพื่อนที่เป็นหัวหน้าข่าวเดินมาบอกว่า จองเหรียญทองคำ หลวงปู่แหวนไว้ เหลือโควต้าไว้หนึ่งเหรียญ
เหรียญทองคำ ยิ่งเป็นเหรียญหลวงพ่อดัง ใครจะไม่อยากได้ แต่เมื่อพยักหน้ารับไปแล้ว ก็เสียวหัวใจ เมื่อรู้ว่าราคาเหรียญแพงกว่าเงินเดือนตัวเองเกือบสองเท่า
คนเงินน้อย แต่กิเลสความอยากได้มาก นั่งไม่สบายใจอยู่จนถึงวันรับพระ เพื่อนคนที่จองพระก็บอกว่า ถ้าสละสิทธิ์ไม่เอาก็ได้ เขายินดีจ่ายให้แพงกว่าอีกเท่าตัว
เอาล่ะซี… จองพระไว้ราคา (สมัยนั้น) 3,500 บาท ตอนรับพระ มีคนให้ราคา 7,000 บาท นั่นเป็นบทเรียนแรก ที่ตื่นตาตื่นใจ กับช่องว่างที่ยิ่งใหญ่ สำหรับผู้ไขว่คว้าหาประโยชน์
และนั่นไม่เป็นเพียงบทเรียนของผม เป็นบทเรียนสำคัญของเพื่อนคนนั้นด้วย หลังจากแยกกันทำหนังสือพิมพ์คนละฉบับไม่นาน …วันนี้ผมมีเพื่อนเป็นเจ้าของสำนักพิมพ์พระเครื่อง ที่คุยได้สบายตามสไตล์ว่า มียอดขายอันดับหนึ่ง
แต่มีเสียงกระซิบว่า การไต่ระดับจากนักหนังสือพิมพ์ วิ่งไล่ล่าหาข่าวหาภาพธรรมดา เป็นนักธุรกิจสิ่งพิมพ์ร้อยล้าน ไม่ได้มาจากผลกำไรจากยอดขายหนังสือ แต่กำไรส่วนใหญ่ได้จากการขายพระ
เพื่อนคนนี้มีลูกเด็ดทีเดียว เขาขายได้ตั้งแต่ ภาพพระองค์ที่ขึ้นปก ตอกย้ำด้วยบทบรรณาธิการ พรรณนาสรรพคุณ และอนาคตด้านราคาของพระ แล้วก็ทิ้งท้ายได้หน้าตาเฉยว่า ถ้าสนใจติดต่อได้
ต่อจากหน้าบทบรรณาธิการ มีเรื่องราวของเกจิดัง หรือพระเครื่องชั้นดีอยู่ประมาณสามเรื่อง เกือบทุกเรื่องมี ป.ล. ทิ้งท้ายว่า สนใจติดต่อได้เต็มที่
และร้อยละแปดสิบ นอกจากนั้นเป็นหน้าโฆษณาขายพระ มีโฆษณาลดแลกแจกแถม ด้วยลีลาภาษายั่วใจ ไม่แตกต่างจากลีลาของพ่อค้าขายผงซักฟอก
สนใจติดตามซื้ออยู่พักใหญ่ เมื่อเห็นว่าไม่ได้สาระจากวิชาการพระเครื่องที่มุ่งหมาย ได้อ่านโฆษณาขายพระลูกเดียว ผมก็เลิกซื้อ
แต่ปฏิเสธไม่ได้เหมือนกันว่า การที่หนังสือพระ เกาะติดกับตลาด คลุกอยู่กับการซื้อขาย แม้อาจถูกดูแคลนว่า เป็นพุทธพาณิชย์ แต่หนังสือฉบับที่เกาะติดอยู่กับตลาดมักไม่พลาด ในการเสนอเนื้อหาที่เป็นพระแท้ พระจริง
ยกข้อตะขิดตะขวงใจ ว่าเนื้อหามีแต่พระใหม่แล้ว ก็ต้องยกนิ้วให้เขาเลยว่า เป็นผู้นำหนังสือพระเครื่องได้ฉบับหนึ่ง
ผ่านยุคที่หนังสือพระขายดี แถมมีโบนัสก้อนใหญ่จากกำไรขายพระ ในขณะที่สื่อสิ่งพิมพ์ทุกประเภท เจอภาวะวิกฤต ล้มหายตายจากไปทีละฉบับๆ ผมเดินดูแผงหนังสือทั้งในกรุงและบ้านนอกแล้วตกใจ เมื่อพบว่าหนังสือพระเครื่องยังยึดแผงขายไว้ได้เหนียวแน่น
เคยนับแผงหนังสือที่แม่กลอง อัมพวา พบว่ามีหนังสือพระเครื่องหน้าใหม่ออกมาเสริมฉบับที่หายหน้าไปแล้ว ถึง 24 ฉบับ ยังไม่รวมหนังสือพระเฉพาะกิจ ที่ยังดาหน้าออกมาเหมือนแมงเม่า ไม่กลัวกองไฟ อีกเดือนละหลายเล่ม
หนังสือพระเครื่องที่ยืนหยัดสู้กระแสเศรษฐกิจตกต่ำอยู่ได้ นอกจากหนังสือหัวเก่า ที่มีแฟนๆ ประจำอย่าง “ ลานโพธิ์ ” แล้ว หนังสือหน้าใหม่ที่ออกมาเห็นได้ชัดๆว่า เน้นการซื้อการขายอย่างเดียว
ที่เคยกระมิดกระเมี้ยน ตีพิมพ์ภาพพระ บอกเป็นนัยว่า ราคาน่าจะเท่านั้นเท่านี้ ตอนนี้เลิกเขินกันแล้วครับ เขียนกันอยู่บนปกเลยว่า จะขาย ราคาต่อรองได้ คุยกันได้
จากพระดัง พระดีมีอันดับที่เคยขึ้นปกองค์เดียว คราวนี้มีหลายองค์ บอกทั้งราคา บรรยายทั้งสรรพคุณ
หนังสือพระ ฉบับที่ไม่กล้า … ยังนำเสนอเนื้อหาพื้นฐานทางวิชาการในการดูพระแบบเก่าๆ ต่างหาก ที่อาการน่าเป็นห่วง
นี่แหละครับ เหตุผลที่ ลานโพธิ์ เปิดหน้า “ มาตรฐาน ลานโพธิ์ ” ตามยุคตามสมัย
แต่เนื้อหาด้านวิชาการ แม้ว่าเรารู้ดีว่าสู้ขายพระไม่ได้ เรายังเคยไว้เหมือนเดิม
ถึงจะเหนื่อย ก็ยังกัดฟันสู้ครับ ทำไงได้…ก็เพื่อสนองน้ำใจ เราๆ ท่านๆ นั่นแหละครับ.
( ที่มา : ลานโพธิ์ ฉบับที่ 759 ปักษ์หลัง เดือนพฤษภาคม 2541 : หลีกทางเซียน : มาตรฐาน ลานโพธิ์ โดย ทแกล้ว ภูกล้า )
ลิขสิทธิ์ 2010 ลานโพธิ์ - สำนักพิมพ์บางกอกสาส์น. สงวนไว้ซึ่งสิทธิทั้งหมด. Copyright Bangkoksarn Publishing 2010.
วันนี้! อ่านหนังสือ ลานโพธิ์ บน i-Pad หรือ Tablet computer ได้ทั่วโลกแล้ว ตามลิงค์นี้
#ลานโพธิ์