![]() |
| เหรียญพุ่มข้าวบิณฑ์ หลวงพ่อทอง รุ่นแรก เนื้อเงินลงยา |
วัดก้อนแก้ว เป็นวัดราษฎร์ ตั้งอยู่ในท้องที่หมู่ 4 ต.ก้อนแก้ว กิ่ง อ.คลองเขื่อน จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งในอดีตเป็นวัดที่อยู่ในถิ่นทุรกันดารมาก อาณาบริเวณของวัดมีประมาณ 20 ไร่ มีหมู่บ้านซึ่งมีประชาชนอยู่อาศัยประมาณ 500 ครอบครัว การทำมาหากินของชาวบ้านในท้องที่เหล่านี้มีอาชีพทำสวน ทำนา และรับจ้าง ในสมัยก่อนการคมนาคมลำบากมาก ไปได้เฉพาะทางเรือ แต่ปัจจุบันทางรถไปได้สะดวกมาก รถเข้าวัดเลย ท่านจะไป วัดก้อนแก้ว ได้โดยเมื่อมาถึงแปดริ้วแล้วไปต่อรถยนต์สายบางน้ำเปรี้ยวที่ตลาดเกื้อกูล เมื่อรถวิ่งไปถึงสะพานหนึ่งเราก็ลง มีทางแยกขวามือไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร ก็เช่ารถสามล้อเครื่องหรือรถสองแถวก็ได้ไปถึงวัดเลย หรืออีกทางหนึ่งโดยไปขึ้นรถที่คิวรถตลาดบ่อบัววิ่งระหว่าง ตลาด-ก้อนแก้ว เลยก็ได้
![]() |
| ศาลาการเปรียญ |
![]() |
| หอระฆัง และหมู่กุฏิสงฆ์ |
![]() |
| ป้ายวัดก้อนแก้ว จ.ฉะเชิงเทรา |
![]() |
| โบสถ์วัดก้อนแก้ว อ.คลองเขื่อน จ.ฉะเชิงเทรา สร้างเมื่อ พ.ศ.2494 |
อุปสมบทและอาจารย์หลวงพ่อ หลวงพ่อทอง ได้อุปสมบทที่วัดจุกเฌอ ต.จุกเฌอ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา โดยมี
พระครูคณานุกิจวิจารย์ วัดสายชล ณ รังสี อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เป็นพระอุปัชฌาย์
พระสมุห์เหลี่ยม วัดสัมปทวน อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เป็นพระกรรมวาจาจารย์
พระอธิการแสง วัดจุกเฌอ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เป็นพระอนุสาวนาจารย์
หลวงพ่ออุปสมบทเมื่ออายุ 29 ปี วันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ.2464 เวลา 16.00 น. ได้ฉายานาม คงฺครตโน เมืื่อบวชแล้วท่านได้จำพรรษาอยู่ ณ วัดจุกเฌอ ศึกษาเล่าเรียนอยู่กับ “ พระอธิการแสง ” ซึ่งท่านบอกว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เก่งมากรูปหนึ่ง มีความสามารถในด้านพระกรรมฐานและวิปัสสนา หลวงพ่อทอง ท่านมีความสามารถในด้านการศึกษา โดยที่ท่านศึกษาด้วยตนเองทั้งอักขระขอม-ไทย-บาลี ท่านมีความจำเป็นเลิศ หลังจากออกพรรษาแล้วท่านได้เดินธุดงค์ไปตามจังหวัดต่างๆ ท่านเคยเดินธุดงค์ไปถึงประเทศเขมรและพม่า และได้ศึกษากับท่าน “ อาจารย์สุวรรณ ” ซึ่งท่านบอกว่ามีวิชาอาคมเก่งมาก นอกจากนั้นท่านยังได้เดินธุดงค์ไปถึงจังหวัดกาญจนบุรี ได้พบกับ “ พระครูเขาพระ ” จึงขอเรียนวิชากับพระครูเขาพระ ต่อจากนั้นได้เรียนวิชาจาก “ เฒ่ามุ้ย ” เป็นวิชาลงกระหม่อมอีก ตลอดระยะเวลาที่หลวงพ่อเดินธุดงค์นั้นได้พบกับสัตว์ร้ายและภูตผีปีศาจแต่่ท่านก็ไม่ได้เกรงกลัว กลับแผ่เมตตาให้กับสัตว์เหล่านั้น เป็นที่น่าอัศจรรย์ที่ภัยเหล่านี้ไม่สามารถทำอันตรายต่อตัวท่านเลย กลับหลีกทางให้ท่านไป ท่านได้เดินธุดงค์เป็นเวลากว่า 20 ปี จึงกลับไปจำพรรษาอยู่ที่วัดจุกเฌอ ส่วนวัดก้อนแก้วสมัยนั้นเกือบจะเป็นวัดร้างอยู่แล้ว
![]() |
| เหรียญพุ่มข้าวบิณฑ์ (เสาร์ห้าหน้าตรง) หลวงพ่อทอง รุ่น 6 เนื้อเงินลงยา พ.ศ.2516 (สร้าง 100 เหรียญ) |
![]() |
| เหรียญพุ่มข้าวบิณฑ์ หลวงพ่อทอง รุ่น 8 เนื้อทองคำลงยา พ.ศ.2519 (สร้าง 62 เหรียญ) สร้างขึ้นในงานฉลองสมณศักดิ์ เฉพาะเหรียญทองคำ ตอกโค้ด ท ที่เหนือบ่าซ้ายมือทุกเหรียญ |
![]() |
| รูปหล่อหลวงพ่อทอง วัดก้อนแก้ว |
จริยวัตรของ หลวงพ่อทอง โดยปกติท่านเป็นพระที่มีความเมตตาสูงมากในด้านพรหมวิหารธรรมทั้งหลาย ท่านพูดน้อย มีแต่อารมณ์ยิ้มแย้มอยู่เสมอ น้อยคำนักที่ท่านจะดุด่าลูกศิษย์ ท่านเป็นพระที่ให้ความเมตตากับชาวบ้านเป็นที่พึ่งของบรรดาชาวบ้านทั้งหลาย เมื่อยามมีทุกข์ร้อน หรือเจ็บไข้ได้ป่วยไปหาท่าน ก็ได้รับหยูกยารักษาจากท่าน หรือแม้แต่การรดน้ำมนต์ท่านก็มีความสามารถมากทีเดียว ท่านจะช่วยสงเคราะห์ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนมา ท่านจะเสกน้ำมนต์อยู่นานทีเดียว และเมื่อรดแล้วผู้ที่เจ็บไข้หรือถูกคุณไสยมาก็จะหาย หรือแม้แต่ทางเมตตาก็ดี ท่านไม่เคยที่จะขัดศรัทธาชาวบ้าน ท่านได้รับกิจนิมนต์อยู่เป็นประจำ ไม่เคยที่จะขัดอาราธนาจากวัดต่างๆ เลย สมกับที่ท่านเป็นพระสมถะที่แท้จริงในสมัยนี้ ท่านไม่มีความโลภ ปัจจัยที่ท่านได้รับถวายมา ท่านจะนำเข้าบำรุงปฏิสังขรณ์ วัดก้อนแก้ว จนหมด ซึ่งตัวท่านเองไม่มีการสะสม ปกติหลังท่านออกรับแขกที่มาหาท่านเมื่อค่ำลงท่านจะปลีกตัวออกสวดมนต์ไหว้พระและนั่งวิปัสสนากรรมฐานเป็นประจำทุกคืน ซึ่งท่านบอกว่าเป็นการแผ่เมตตาให้กับสรรพสัตว์ และเวลาเช้าท่านจะเดินจงกรมบริเวณสนามหญ้าหน้าโบสถ์เป็นประจำทุกเช้า![]() |
| เหรียญเสมาหลวงพ่อทอง รุ่น 14 สรงน้ำ เนื้อทองคำลงยา ตอกโค้ด นะ พ.ศ.2525 (สร้าง 120 เหรียญ ไม่ลงยา 5 เหรียญ) |
![]() |
| เหรียญนาคปรกใบมะขาม หลวงพ่อทอง รุ่น 13 เนื้อทองคำ ตอกโค้ด ท พ.ศ.2525 (สร้าง 200 เหรียญ) |
การสร้างวัตถุมงคลของหลวงพ่อ
นอกจากเหรียญและพระเนื้อว่านต่างๆ แล้ว ท่านยังมี ตะกรุดโทน ผ้ายันต์ ท่านไม่ค่อยจะลงให้ใครด้วยมือของท่านเอง ถึงมีบ้างก็เป็นส่วนน้อย ส่วนมากลูกศิษย์จะเป็นผู้ลงและท่านเป็นผู้ปลุกเสกให้ หรือเอาพิมพ์มาแล้วท่านก็ปลุกเสกให้ หลวงพ่อท่านเป็นพระที่มีความจำดีมาก แม้กระทั่งการสวดมนต์ของท่านถึงจะมีอายุถึง 90 ปีแล้วก็ตาม ท่านยังสวดได้ครบไม่หลง หลวงพ่อพิถีพิถันมากในการสักหรือการลงยันต์ อย่างเช่น การสักยันต์ หลวงพ่อจะตั้งศาลเพียงตาบูชาครูหน้าพระอุโบสถ แล้วสักยันต์ให้ในพระอุโบสถนั่นเอง เวลาสักเมื่อทำพิธีบาครูด้วยหัวหมู บายศรีแล้ว หลวงพ่อจะทำน้ำมนต์ประพรมทาบริเวณที่จะทำการสักยันต์แล้วจึงประพรมน้ำมนต์ให้อีกครั้งหนึ่ง คนที่ถูกน้ำมนต์ประพรมจะวิ่งร้องลั่นเป็นเสียงหมูอยู่ในพระอุโบสถ แล้วพวกที่สักยันต์นี้จะไม่รับประทานหัวปลีกล้วยกันเลย![]() |
| สรีระหลวงพ่อทองที่ไม่เน่าเปื่อย บรรจุอยู่ในโลงแก้วบนมณฑปวัดก้อนแก้ว |
![]() |
| ภายในมณฑปวัดก้อนแก้ว รูปปั้นหลวงพ่อเหลืออยู่ตรงกลาง |
ยันต์กระหม่อมนี้หลวงพ่อเล่าให้ผู้เขียนฟังว่า ท่านได้เดินธุดงค์ผ่านไปทางเมืองกาญจนบุรีพบชายขี้เมายกเหล้าดื่มทั้งไห เวลาเมายกไหเหล้าโยนขึ้นไปแล้วใช้หัวโหม่ง ปรากฏว่าไหเหล้้าแตกกระจาย ท่านเห็นดังนั้นท่านจึงเข้าไปพูดคุยด้วย และได้สอบถามว่ามีของดีอะไร ได้ทราบว่าเป็น ยันต์กระหม่อม ท่านจึงเดินทางไปหาอาจารย์ของชายคนนั้น และได้ร่ำเรียนวิชามา นอกจากสักยันต์ หลวงพ่อทอง ก็ รดน้ำมนต์ ให้ผู้ที่มาขอ ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของบรรดาสานุศิษย์ ท่านเป็นพระซึ่งทรงไปด้วยความเมตตากรุณาแก่บรรดาพุทธศาสนิกชนทุกคน ไม่เคยแบ่งชั้นวรรณะ ไม่มีพิธีการอะไรมากมายท่านถือเป็นกันเองหมด มีอยู่บ่อยครั้งที่บรรดาญาติโยมขอให้ท่านรดน้ำมนต์ ทั้งๆ ที่ท่านยังพักผ่อนจำวัดอยู่ ท่านก็ลุกขึ้นต้อนรับอย่างอารมณ์ดี หรือเมื่อญาติโยมที่อยู่ต่างจังหวัดมาแล้วจะกลับไม่ทัน หรือกลัวจะกลับมืดค่ำ ท่านก็จะไม่ยอมจำวัดจะต้องทำให้เสร็จเสียก่อน และท่านก็อนุญาตว่าถ้ามีแขกมาหา ไม่ว่าตอนไหนก็อนุญาตให้ปลุกได้ แม้ในยามค่ำคืน ถ้าผู้ที่มาต้องการเป่ากระหม่อม ท่านก็จะทำการเป่าให้ ต้องการรดน้ำมนต์ท่านจะให้ไปตักน้ำมนต์ และใส่ดอกไม้ธูปเทียนพร้อมทั้ง ค่ากำนล 12 บาทสาเหตุที่ท่านต้องทวงถามเช่นนี้เนื่องจากบางรายลืมใส่ค่ากำนล ทำให้ท่านเจ็บป่วยต้องไปนอนอยู่โรงพยาบาลแต่รักษาไม่หาย จึงต้องแก้บนต่อครูบาอาจารย์จึงหาย แสดงว่าครูบาอาจารย์เขาทำเอา แม้ว่าท่านจะชราภาพมากแล้ว ความที่ท่านมีจิตเมตตา ท่านก็จะอนุเคราะห์แก่ผู้ที่มีศรัทธาทุกคน ถึงแม้จะต้องลำบากขึ้นบันไดสูงๆ ท่านก็ไม่เคยบ่น ท่านมีวิธีการรดน้ำมนต์ตามวันและทิศของเทวดา ดังนี้
![]() |
| พระผงรูปเหมือนหลวงพ่อทอง เนื้อว่านผสมผง (สร้าง 60 องค์) |
อาทิตย์ หันหน้าไปทิศตะวันตก
จันทร์ หันหน้าไปทิศตะวันออก
อังคาร หันหน้าไปทิศเหนือ
พุธ หันหน้าไปทิศเหนือ
พฤหัสบดี หันหน้าไปทิศใต้
ศุกร์ หันหน้าไปทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
เมื่อท่านรดน้ำมนต์ จะรดไปท่องคาถาไป เมื่อรดเสร็จเรียบร้อยก็จะอวยพรให้เป็นอย่างดี ชาวบ้านบางท่านก็ไปพบท่านให้ท่านประพรมน้ำมนต์ ท่านก็พรมให้แล้วว่าด้วยพระคาถาสิวลีจนจบแล้วอวยพรให้ ซึ่งผมจำคำท้ายได้ว่า หมดเคราะห์ หมดโศก หมดโรค หมดภัย ซื้อง่าย ขายคล่อง เมื่อท่านให้พรเสร็จท่านจะคุยด้วยอย่างอารมณ์ดีเป็นประจำ
![]() |
| รูปถ่ายหลังตะกรุด หลวงพ่อทอง วัดก้อนแก้ว |
![]() |
| เหรียญนางกวัก หลวงพ่อทอง รุ่น 15 เนื้อทองคำ ตอกโค้ด ท พ.ศ.2525 (สร้าง 22 เหรียญ) |
มูลเหตุของการสร้างวัตถุมงคล หลวงพ่อทอง ท่านเป็นพระที่มีความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์สูง และสรรพสัตว์ทั้งหลาย เมื่อหลวงพ่อฉันเสร็จเรียบร้อยแล้วท่านก็จะนำอาหารไปเลี้ยงสุนัขและแมวบริเวณหน้ากุฏิของท่าน ในจำนวนสัตว์ทั้งหลายนั้นก็มี อีเขียว ซึ่งเป็นสุนัขที่ฉลาดและดื้อมาก มันชอบไปกัดหมูที่ชาวบ้านเขาเลี้ยงไว้ ชาวบ้านบริเวณนั้นจึงไล่ยิงหลายครั้ง เมื่อทราบถึงหลวงพ่อ ท่านจึงเอาผ้าขาวลงอาคมมาผูกคออีเขียว ปรากฏว่าชาวบ้านยิงอีเขียวไม่ออก เมื่อชาวบ้านรู้ว่าอีเขียวได้ของดีจาก หลวงพ่อทอง จึงพากันมาขอของดีจากหลวงพ่อบ้าง บ้างก็ให้สร้างวัตถุมงคล โดยปกตินิสัยของชาวบ้านแถบ วัดก้อนแก้ว นับตั้งแต่สมัยก่อนมาแล้ว ต่างก็ทราบดีว่าเป็นเขตนักเลง แม้ชาวบ้านแปดริ้วก็รู้จักดีเมื่อเขตก้อนแก้วและดอนสนามเป็นเขตนักเลง ดังนั้นพระที่จะไปอยู่ดงนักเลง หรือเป็นเจ้าอาวาส วัดก้อนแก้ว ก็จะต้องมีความรู้ ความสามารถ ให้ชาวบ้านเคารพศรัทธาจึงจะปกครองพัฒนาวัดให้เจริญขึ้นมาได้วัตถุมงคลของหลวงพ่อ วัตถุมงคลที่ หลวงพ่อทอง สร้างขึ้นมานั้น ส่วนมากจะเป็นเหรียญ ส่วนพระผงนั้นมีน้อย นอกจากนั้นก็มี พระปิดตา รูปหล่อ ตะกรุด ผ้ายันต์สีแดง-ขาว แต่ท่านก็ทำพร้อมไปกับเหรียญ แต่เดิมนั้นตอนสมัยที่ท่านยังชราภาพไม่มาก ได้มีการสักยันต์โดยผู้ที่ทำการสักชื่อ หม่องผาด ซึ่งเรียนวิชามาพร้อมกับท่าน โดยหม่องผาดเรียนสักยันต์ ท่านเรียนวิชาอาคม ท่านได้สักยันต์ให้ลูกศิษย์ใกล้ชิดจำนวนไม่กี่คน โดยมีการ สักยันต์กระหม่อม และ สักยันต์หมูทองแดง เมื่อหม่องผาดเสียชีวิตท่านก็เลิกสัก จึงได้สร้างวัตถุมงคลยันต์หรือพระคาถาที่หลวงพ่อใช้ลงหลังเหรียญ ตรงกลางเป็นอักขระวิเศษที่เรียกกันว่า “ เฑาะว์ ” และขึ้นยอดเป็นอุณาโลม ล้อมรอบด้วยอักขระขอมเป็นพระคาถาพระพุทธเจ้าห้ามอาวุธ ว่า อรหัง สัตถาถุนัง เป็นต้น ( สัตถาถุนัง อาคธิตุงธานาสะบาง เหรียญบางรุ่นก็มี มะ อะ อุ ต่อท้าย ) และยันต์ที่กล่าวมานี้ เป็นยันต์ที่อยู่รอบคอหลวงพ่อนั่นเอง
( ที่มา : ลานโพธิ์ ฉบับที่ 1220 หลวงพ่อทอง วัดก้อนแก้ว อ.คลองเขื่อน จ.ฉะเชิงเทรา “ เกจิอาจารย์ขลังแห่งเมืองแปดริ้ว ” เดือนมีนาคม พ.ศ. 2561 ราคาปก 70 บาท )
























