หลีกทางเซียน : ขบวนการ ปล่อยพระ


เรื่องโดย ทแกล้ว ภูกล้า

คนรุ่นเก่า  เรียกขานกลุ่มคนที่หน้าดำคร่ำเครียดกับการส่องพระ  ว่า นักเลงพระ  และเมื่อนักเลงพระเผชิญหน้าแลกพระเครื่องกัน  ก็จึงเกิดคำว่า  “ ตีพระ 

อาจเป็นเพราะคำว่า  “ ตีพระ ”  ดูจะโลดโผนโจนทะยานเกินไป  ต่อมาคำนี้ก็ค่อยๆ เลือนหายไป  เหลือแต่คำต่อมา  คือคำว่า  “ เช่าพระ ”  และ  “ ปล่อยพระ 

แทนที่จะบอกว่า  จะซื้อ จะขาย  ก็เลี่ยงไปใช้คำว่า  “ เช่า ”  แต่ก็เป็นที่เข้าใจ  ว่าหมายถึงการซื้อขายเป็นกรรมสิทธิ์  ไม่ได้แต่ให้เช่าชั่วคราว

ส่วนคำว่า  “ ปล่อยพระ ”  ตอนนี้ยังมีใช้กันอยู่บ้างประปราย  ส่วนใหญ่ใช้คำว่า ขายกันแล้ว  ไม่ต้องนั่งตีความกันตอนพระมีปัญหา

ในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ  ค่าเงินบาทนิ่งอยู่ที่ 39 บาทต่อดอลลาร์พักใหญ่  เจอปัญหาอินโดนีเซีย  ทำท่าจะตกหล่นไปกว่า  40 อีก  อะไรๆ  ที่ทำท่าจะไม่มีความหวัง  ก็ถึงขั้นหมดหวัง

ปัญหาอาชญากรรมเกิดขึ้นมาก  ตามความคาดหมาย  เริ่มแต่การจี้  ตี  ชิง  วิ่ง  ราว  ไปถึงการปล้น  การฉ้อฉล  ต้มตุ๋น


ก็ระยะนี้อีกนั่นแหละ  ที่ข่าวขบวนการต้มตุ๋นหนาตาทางหน้าหนังสือพิมพ์รายวันเรื่องแชร์  สารพัดแชร์  ที่ต้มกันไปแล้ว  ทำท่าจะเข็ดกันไปแล้ว  แต่เมื่อนักต้มมันปัดฝุ่นปรับปรุงกระบวนท่าใหม่  ก็ยังใช้ได้ต่อไปอีก

แต่ที่เป็นข่าวน้อยกว่าเรื่องแชร์  ก็คือ  ขบวนการสร้างข่าวหลอกขาย  เครื่องรางของขลัง  ส่วนพระเครื่องนั้นว่ากันถึงความถี่มีอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน  แต่ดูเหมือนว่าจะสมยอมกันตามวิสัยนักเลง  เป็นคดีความอยู่บ้าง  แต่ก็น้อย

จากเหล็กไหล  ที่ต้มกันเปื่อยแล้วเปื่อยอีก  เมื่อสิบ  ยี่สิบ  สามสิบ  ปีที่แล้ว  ปีนี้ก็ยังมีข่าวอีก  ที่พัฒนามาเป็น หินกินเหล็ก  ก็สูตรเดียวกัน  ไม่มีอะไรแตกต่างกัน  เปลี่ยนชื่อเท่านั้นแหละ

มักกะลีผล  ก็ใช่  ช้างน้ำ  ก็ใช่  ลงท้ายอีหรอบเดียวกัน

ข้อน่าสังเกตก็คือ  เรื่องพิลึกกึกกือแบบนี้  มักมีหลวงพี่  หลวงพ่อเข้าไปเกี่ยวข้อง  อย่างเรื่องหินกินเหล็ก  พระท่านบอกว่าถูกหลอกเงินไปหนึ่งแสน  ประสกสีกาที่ห่างวัดวาบ่นกันพึม  พระหาเงินแสนมาจากไหน

เงินแสนสำหรับญาติโยม  ในยุคข้าวยากหมากแพงอาจจะดูมาก  แต่กับเจ้ากูพวกที่นิยมยศศักดิ์  ข่าวก็ปูดออกมาแล้วว่า  วิ่งเต้นกันเหน็ดเหนื่อย  กว่าจะได้พัดเจ้าคุณมาถือใช้เงินกันตั้งห้าตั้งหกล้าน

หลวงพ่อวัดเล็กๆ  หมดเงินแสนไป  ยังไม่เท่ากับถูกชาวบ้านครหา  ว่าอยู่ในขบวนการต้มตุ๋นด้วย

ปัญหานี้เด็กวัดเก่าอย่างผม  ขออนุญาตแก้ต่างแทนหลวงพี่  หลวงพ่อครับ  พระท่านก็เป็นพระ  สวดมนต์ภาวนาอยู่แต่ในวัด  ออกนอกวัดก็ต่อเมื่อมีกิจนิมนต์  หูตาท่านไม่สว่างเท่ากับคนในโลกคฤหัสถ์  ที่ผจญการต้มตุ๋นอยู่ตั้งแต่ประตูบ้านยันป้ายรถเมล์ริมถนน

โดยจริตพระ  ท่านมองโลกในแง่ดี  ใครมีทุกข์ร้อนท่านก็สงสาร  ให้การสงเคราะห์ได้  ท่านก็ทำไป  กลายเป็นจุดอ่อนให้นักต้มใช้เป็นเครื่องมือ

ถ้าพระมีเงินก็ถูกหลอกเอาเงิน  ถ้าไม่มีเงิน  พวกมันก็ใช้เป็นสะพาน

ถึงจะมีข่าวพระไม่ค่อยดีอยู่บ่อยๆ  แต่ถึงยังไงผ้าเหลือง  คือ ธงชัย  พระอรหันต์  วันนี้ก็ยังใช้ได้

เรื่องหินกินเหล็กนั้น  นอกจากความไม่ฉลาด  รู้ไม่เท่าทันแล้วยังปนด้วยความโลภด้วย

ความจริง  พระท่านก็สอนชาวบ้านอยู่ทุกวัน  เรื่องโลภ  โกรธ  หลง  กิเลส  สามประการนี้  ไม่ว่าจะขึ้นต้นด้วยประการใด  ก็เชื่อมโยงกันครบวงจร

เมื่อไม่ฉลาด  ถูกหลอกให้เชื่ออิทธิฤทธิ์หินกินเหล็ก  ความโลภก็ยึดกุมหัวใจ  ที่ยอมเสียเงินแสนไปนั่น  ก็เพราะอยากได้เงินสิบยี่สิบล้าน  ที่ถูกหลอกให้เห็นว่าอยู่แค่มือเอื้อม

รู้ความจริงแล้ว  เป็นไงความโกรธก็ระเบิดออกมา  เรื่องถึงตำรวจ

เริ่มด้วยหลง  ตามด้วยโลภ  เป็นต้นเหตุของความโกรธ  ถ้าหลวงพ่อยอมรับปรับใจ  ก็น่าจะเอาตัวอย่างนี้ไปสอนชาวบ้านต่อ  ลงท้ายว่าอาตมาก็เจอมาแล้วก็ไม่เลว

ทุกวันนี้  ผมก็เจอคนประเภทที่หอบพระมาปล่อย  ที่ใช้คำว่าหอบ  เพราะเอามากันเป็นถุง  ใช้คำว่าบรรทุกมาก็ได้  เพราะบางรายขนมาเต็มคันรถ

รายหนึ่ง  มาครั้งแรกก็พระบูชาปลอมแบบธรรมดา  ก็แบบที่วางขายกันแถวสวนจตุจักร  ไม่ใช่พระปลอมฝีมืออะไรหรอก  นอกจากหอบพระมา  แล้วก็ยังพาเมียลูกอ่อนมาด้วย

ปฏิเสธแบบไม่ให้เสียน้ำใจ  ของอย่างนี้  “นาย”  ไม่ได้เล่น  คิดเอาว่าเขาคงเข้าใจในที

ที่ไหนได้  อีกสี่ห้าวัน  ย้อนมาอีก  คราวนี้อย่างที่บอกมาเป็นคันรถ  อ้อนวอนให้ไปดูถึงในรถ  เห็นองค์แรก  ก็ไม่ต้องดูองค์ที่สอง  องค์ที่สาม

ถ้าพูดภาษาเซียน  เขาก็บอกว่า  เห็นหน้าแล้วก็ไม่อยากพูดด้วยแต่ที่จำเป็นต้องพูดด้วย  ก็เพราะเห็นความตั้งใจมา  ดูท่าก็พอรู้ว่า  ถูกหลอกให้ซื้อมาขายเอากำไร  โดยไม่มีความรู้  ไม่มีข้อมูลพื้นฐาน

ถึงขั้นนี้  ก็ต้องบอกความจริงกัน  ว่าเป็นพระปลอม  ปลอมแบบง่ายๆ  อย่าขวนขวายขนมากวนเวลาทำงานทำการกันเลย

บทสรุปที่อยากให้ท่านผู้อ่านในวันนี้  ก็คือ  ไม่มีหรอกครับ  ของฟลุ้ก  ของแท้  ของดีๆ  ทุกตารางนิ้วของเมืองไทย  ถูกกระบวนการตลาดเขากวาดเอาไปหมดแล้ว.

( ที่มา : ลานโพธิ์ ฉบับที่ 761 ปักษ์หลัง เดือนมิถุนายน 2541 : หลีกทางเซียน : ขบวนการ ปล่อยพระ โดย ทแกล้ว ภูกล้า )


วันนี้อ่านหนังสือ ลานโพธิ์ บน i-Pad หรือ Tablet computer ได้ทั่วโลกแล้ว ตามลิงค์นี้ 

 BangkokSarn App        Lanpo        OokBee       Meb market       AiS Bookstore  
ลิขสิทธิ์ 2010 ลานโพธิ์ - สำนักพิมพ์บางกอกสาส์นสงวนไว้ซึ่งสิทธิทั้งหมด.  Copyright Bangkoksarn Publishing 2010. 



#ลานโพธิ์ #761 #หลีกทางเซียน #ทแกล้ว ภูกล้า