วันพุธที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2568

ความเป็นมาของ พระสมเด็จ กรุเจดีย์เล็ก บางขุนพรหม โดย แสน วิชาชาญ

หลังจากมีการเปิดกรุนำ พระสมเด็จ ในกรุเจดีย์ใหญ่ ออกมาให้บูชาแล้ว เศษที่ชำรุดได้ถูกนำมาสร้างเป็น พระสมเด็จ ปี 2509 ได้เงินมามากพอสมควร

ทางวัดใหม่อมตรส หรือ วัดบางขุนพรหม จึงนำมาปรับปรุงอาณาเขตในวัดให้ดูงดงามตามที่ควร จะเป็น เจดีย์ใหญ่ จะมีเจดีย์เล็กประจำอยู่สี่ทิศ เป็นเจดีย์เล็กคู่กัน ทิศละสององค์

ทางวัดว่าจ้างผู้รับเหมา มาทำการปรับรื้อเจดีย์เล็กออกไป และปรับพื้นที่โดยรอบให้เป็น ดังที่เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน ผู้รับเหมาจ้างคนงานทุบ คนงานจึงทำการทุบเจดีย์เล็กทิ้ง

จากปากคำของคนงานที่บอกกับ คุณชลอ รับทอง ผู้มี พระกรุ นี้อยู่มากที่สุด มีอยู่ว่า

วันพุธที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2568

ท่านพระครูภาวนากิตติคุณ (หลวงพ่อน้อย) วัดธรรมศาลา ผู้ยิ่งด้วยบารมี ตอนที่ 3 (จบ) เขียนโดย แสน วิชาชาญ

ในตอนที่แล้วได้เล่าถึง นะทรงแผ่นดิน มาจนถึงกุฏิของ หลวงพ่อน้อย ที่กรรมการวัดขอสร้างใหม่ แต่ท่านปฏิเสธ ในปี 2510 จะได้กล่าวถึงต่อไปในตอนนี้ หลวงพ่อคงจำพรรษาอยู่ในกุฏิเก่าต่อมาเรื่อยๆ จนต้นปี 2511 

คณะกรรมการวัดก็เข้าไปหาท่านอีกครั้ง ตอนนั้นหลวงพ่อกำลังนั่งพักผ่อนตามสบาย พอเห็นกรรมการวัดเข้าพบท่านก็ครองผ้าให้เรียบร้อย พอกรรมการวัดก้มลงกราบ ท่านก็บอกว่า

“มาเรื่องสร้างกุฏิใหม่อีกแล้วไง บอกว่าไม่ต้องหรอกสร้างอย่างอื่นดีกว่า ก็ไม่ฟังนี่นา”

วันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2568

ท่านพระครูภาวนากิตติคุณ (หลวงพ่อน้อย) วัดธรรมศาลา ผู้ยิ่งด้วยบารมี ตอนที่ 1 เขียนโดย แสน วิชาชาญ

ท่านพระครูภาวนากิตติคุณ (หลวงพ่อน้อย) วัดธรรมศาลา ผู้ยิ่งด้วยบารมี วัดธรรมศาลา เป็นวัดราษฎร์เก่าแก่มาแต่ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ เชื่อกันว่าน่าจะเป็นวัดร้างเก่าแก่มาก่อน ต่อมาได้มีการฟื้นฟูบูรณะขึ้นใหม่บนซากโบราณสถาน ตั้งอยู่บนถนนที่จะเข้าตัวเมืองทางฝั่งซ้าย เลย กม.ที่ 51 ไปไม่มาก ใน ต.ธรรมศาลา อ.เมือง จ.นครปฐม

หลวงพ่อน้อยเป็นอดีตเจ้าอาวาสของวัดนี้ มรณภาพเมื่อปี พ.ศ.2513 หลวงพ่อน้อยเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีพรรษาสูงที่สุดใน จ.นครปฐม เวลานั้น เป็นพระที่หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ให้ความนับถืออย่างยิ่ง

วันพุธที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2568

เหรียญหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว จ.ฉะเชิงเทรา พ.ศ.2481


เหรียญของหลวงพ่อดิ่ง แห่งวัดบางวัว (วัดอุสภาราม) อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา จัดเป็นเหรียญที่นิยม และเป็นเหรียญหลักที่แสวงหากันมากเหรียญหนึ่ง มีพุทธคุณเป็นอมตะ ผู้ที่มีอยู่ต่างหวงแหน และไม่ยอมให้ใครง่ายๆ 


ทั้งนี้ด้วยอิทธิฤทธิ์และปาฏิหาริย์อันมหัศจรรย์ที่เล่าลือกันมากต่อมากว่า ทั้งมีด ทั้งปืน ไม่มีกินทีเดียว เรื่องของการแคล้วคลาด ก็มีผู้ได้รับประสบการณ์มาก บางคนรอดตายจากอันตรายที่ได้รับจนแทบไม่น่าเชื่อ

วันจันทร์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2568

พระวัดชนะสงคราม พระกรุพุทธคุณสูง

 

ชื่อของพระ นามของวัด บางครั้งก็สื่อความหมายชัดถึงบางสิ่งบางอย่างได้ อย่างน้อยก็บ่งบอกถึงประวัติความเป็นมาของพระหรือวัดนั้นๆ หรืออาจมีความหมายกว้างไกลไปถึงกิตติคุณบารมีในองค์พระได้เลยทีเดียว

ตัวอย่างเช่น พระไพรีพินาศ พระเครื่องพิมพ์นี้ ใครได้ครอบครองอยู่ ศัตรูคู่อริได้ยินชื่อแล้วรับรองว่าต้องหนาว

ชื่อนามข่มกันไว้ก่อน อิทธิแห่งอำนาจพุทธคุณยังไม่นับครับ เช่นเดียวกันกับ พระกรุวัดชนะสงคราม…

ชื่อนามข่มศัตรูคู่อริได้ดีไม่แพ้ ไพรีพินาศเลยเชียว

พระกรุวัดชนะสงคราม เป็นพระที่มีอายุการสร้างกว่าร้อยปี ซึ่งนับได้ว่าทรงคุณค่าเป็นโบราณวัตถุได้แล้ว

วันเสาร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2568

ก่อนปิดปก หลวงพ่อศรีเงิน วัดดอนศาลา ปลุกเสก พระหลวงพ่อทวด เนื้ออัลปาก้า เขียนโดย แฉ่ง บางกระเบา

คนร่างอ้วนกำลังสนทนากับ “ หลวงพ่อศรีเงิน ” ในภาพข้างบนนั้นคือ “ แฉ่ง บางกระเบา ” เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อหลายปีมาแล้ว คราวนั้นเดินทางไป วัดดอนศาลา เพื่อนำเอา พระหลวงพ่อทวด เนื้ออัลปาก้า ที่สร้างแจก ท่านผู้อ่านลานโพธิ์ ไปปลุกเสก โดยทำพิธีใหญ่ใน อุโบสถวัดดอนศาลา มีคณาจารย์มาปลุกเสกกันหลายองค์ ตามที่เคยเสนอไปแล้ว 

ขณะนั้น “ หลวงพ่อศรีเงิน ” ท่านกำลังอาพาธอยู่ที่ โรงพยาบาลพัทลุง ผู้เขียนก็บอกบรรดาศิษย์ไปว่า หลวงพ่อไม่มาปลุกเสกก็ไม่เป็นอะไร ภาษาใต้ก็บอก “ไม่พรื้อ” เพราะมีองค์อื่นๆ มามากพอแล้ว 


แต่บรรดาศิษย์ หลวงพ่อศรีเงิน โดยมี คุณประจวบ เป็นหัวหน้าบอกว่า ท่านรู้แล้วว่า “ แฉ่ง บางกระเบา ” จะมา ท่านไม่ยอมท่านต้องมาปลุกเสกให้จนได้ จึงต้องประคองท่านมาจากโรงพยาบาลพัทลุง